“ฟุตบอลโลก” มาแล้วครับ

ตอนที่ “มติชนสุดสัปดาห์” เล่มนี้วางแผง การแข่งขันกีฬาที่สามารถหยุดโลกให้นิ่งได้เริ่มไปแล้ว

แต่น่าแปลกใจที่ในเมืองไทยบอลโลกครั้งนี้ไม่คึกคักเลย

เงียบสนิทจริงๆ

ส่วนหนึ่งเพราะการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไม่มี “เจ้าภาพ” ที่ชัดเจน

ไม่มีใครเป็นหัวหอกในการประมูลสิทธิ์

จนรัฐบาลต้องออกโรงมาเป็น “เจ้าภาพ” ดึงภาคเอกชนให้มาร่วมลงขันซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด

ให้ “ทรูวิชั่นส์” เป็นคนเซ็นสัญญา

พอไม่มี “เจ้าภาพ” หลักอย่างเป็นทางการ การประชาสัมพันธ์บอลโลกครั้งนี้จึงเป็นไปแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ

คิดดูสิครับ ผังการถ่ายทอดสดว่าช่องไหนจะถ่ายคู่ไหนเพิ่งเสร็จก่อนพิธีเปิดแค่ 1 สัปดาห์

งึมๆ งำๆ จนวินาทีสุดท้าย

ฟรีทีวีที่ถ่ายทอดสดมี 3 ช่อง คือ ทรูโฟร์ยู อมรินทร์ และ ททบ.5

แต่ละช่องไม่ใช่ระดับ “ท็อปไฟว์”

พลังในการประชาสัมพันธ์ก็ต่ำ

ไม่เหมือนในอดีตที่ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 ช่อง 7

ช่วงนั้นทีวียังมีแค่ 4 ช่อง และพลังของทีวียังแรงอยู่

ไม่เหมือนวันนี้ที่ทีวีโรยแรงไป

อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้กระแสบอลโลกยังไม่คึกคัก

แต่ผมยังเชื่อในพลังของ “บอลโลก” ครับ

ปล่อยให้แข่งไปสัก 4-5 วัน

กระแสจะก่อตัวขึ้นเอง

ยิ่งถ้าทีมที่คนไทยเชียร์อย่าง “อังกฤษ-บราซิล-เยอรมนี” เข้ารอบลึกๆ

บางที “บอลโลกฟีเวอร์” อาจกลับมาอีกครั้ง

ใครจะนิ่งๆ เฉยๆ อย่างไรก็ช่าง

แต่ผมยังเอาจริงเอาจังกับ “บอลโลก” เหมือนเดิม

เริ่มต้นจากเรื่องโทรทัศน์

แปลกมากเลยครับ ก่อนการแข่งขันจะเริ่มไม่นาน

อยู่ดีๆ โทรทัศน์ที่บ้านก็เริ่มมีปัญหา

อาจเป็นเพราะใช้มานานเกือบสิบปีแล้ว

ภาพที่เคยชัด เรากลับดูไม่ชัด

คนที่บ้านบอกว่า “ชัด”

เราก็ยืนยันว่า “ไม่ชัด”

จอก็เล็ก

สุดท้ายผมเลยจำใจต้องซื้อเครื่องใหม่

…ต้อนรับ “บอลโลก”

หลังจากนั้นก็เริ่มวางแผนเรื่องการดูบอลโลกอย่างละเอียด

ผมเป็นคนให้เกียรติคนครับ

4 ปีเขาจัดขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง

ถ้าเราไม่ดู คนจัดคงเสียใจ

ผมเริ่มต้นด้วยการใช้ความเป็น “ฟรีแลนซ์” ให้เป็นประโยชน์

จัดวางเวลาการทำงานใหม่

เรื่องแบบนี้ถ้ายังทำงานประจำอยู่คงทำไม่ได้

โชคดีที่หลักสูตร ABC TALENT เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

กว่าจะเริ่ม ABC รุ่นใหม่ก็เดือนสิงหาคม

“มิถุนายน-กรกฎาคม” จึงโล่งโปร่งสบาย

ผมเริ่มจัดภารกิจทุกอย่างในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมให้เป็นระบบ

ทุกกิจกรรมจะเริ่มตอนบ่าย

นัดหมายช่วงเย็นก็พยายามหลีกเลี่ยง

เวลาการถ่ายทอดสดบอลโลกครั้งนี้มี 3 ช่วงเวลาครับ

19.00-21.00 น. และ 01.00 น.

แต่ทุกช่องจะเริ่มรายการวิเคราะห์วิจารณ์ก่อนแข่งประมาณครึ่งชั่วโมง

ดูตารางบอลอย่างละเอียด

คู่ไหนพลาดไม่ได้

คู่ไหนปล่อยวางได้

2 คู่แรก ตอน 1 ทุ่มกับ 3 ทุ่ม ไม่มีปัญหา

แต่คู่ตีหนึ่งต้องวางแผนบ้าง

ถ้าดูสดไหวก็ดู

แต่ถ้าไม่ไหวก็คงใช้ระบบการอัดรายการเพื่อดูย้อนหลังของ “ทรูวิชั่นส์” ให้เป็นประโยชน์

วางแผนการดูบอลตอนเช้าดีๆ

ตื่นขึ้นมาห้ามดูมือถือเด็ดขาด

เราต้องไม่รับรู้ข่าวสารอะไรทั้งสิ้น

ตื่นปั๊บดูเลย

บอลคู่ไหนก็ตาม ถ้าเราไม่รู้ผลการแข่งขัน

ดูตอนไหนก็เหมือนกับ “สด”

ลุ้นเหมือนกัน

อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องวางแผน

นั่นคือ เรื่องอาหารการกินยามดึก

ดูบอลเฉยๆ ไม่กินอะไรเลย

ร่างกายอาจขาดสารอาหารได้

แต่ถ้ากินขนมกรอบทั่วไป

สารอาหารอาจเกินขนาด

จบบอลโลก น้ำหนักอาจพุ่งพรวด

บอลโลกครั้งนี้ผมเตรียม “ผลไม้” ไว้แล้วครับ

คือ “ทุเรียน”

พูดเล่นครับ

ขืนกินทุเรียนไป ดูบอลไป

พุงขยายเป็นพู-พู แบบทุเรียนแน่นอน

ผลไม้ที่เหมาะสมจึงเป็นแอปเปิล ฝรั่ง และส้มโอ

นี่คือเมนูสุขภาพ

แต่โลกนี้ต้องมี “หยิน” กับ “หยาง”

อีกเมนูหนึ่งที่เตรียมไว้

คือ “เนื้อทอดเทวดา” ครับ

วิชาสุขศึกษาบอกว่า “โปรตีน” ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อที่สึกหรอ

มีประโยชน์ต่อร่างกาย

เจ้าของคือ “ปิงปอง” แห่ง “เดอะ สแตนดาร์ด” กับ “น้าเน็ก”

อร่อยมากครับ

ไม่เคยกิน “เนื้อทอด” อะไรที่กรอบขนาดนี้

แต่ที่อร่อยกว่าก็คือเรื่องราวของสินค้า

เริ่มจากมีคนเอา “เนื้อทอดเทวดา” มาให้ “ปิงปอง”

เขากินแล้วชอบมาก

ชอบระดับให้เลขาฯ โทร.สั่งซื้อครั้งละ 10 กระป๋อง

สั่งล็อตใหญ่แบบนี้หลายครั้ง

วันหนึ่งเจ้าของก็บอกเลขาฯ ว่า ถ้าซื้อเยอะขนาดนี้ มาถือหุ้นเลยดีกว่า

อ้าว…ก็เป็นเรื่องสิครับ

“ปิงปอง” พา “น้าเน็ก” เพื่อนซี้ไปหาเลย

เจ้าของเขากำลังเบื่อๆ อยู่

เพราะเขาชอบทอดเนื้อ แต่ไม่ชอบขาย

เรียบร้อยสิครับ

การเจรจาซื้อหุ้นจบลงด้วยดี

“ปิงปอง” กับ “น้าเน็ก” ก็เริ่มทำตลาดเลย

ตอนนี้ขายดีมาก

ใครชิมก็ติดใจ

ผมเตรียมสั่งซื้อล็อตใหญ่ต้อนรับบอลโลกเลย

ยิ่งพบสูตรใหม่ คือเทถั่วลิสงทอดลงไปในกล่อง

เนื้อทอดกรอบๆ เค็มๆ กับถั่วลิสงหวานมัน

อร่อยโคตะระเลยครับ

ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว

“โทรทัศน์” เครื่องใหม่พร้อม

“เวลา” พร้อม

“เนื้อทอดเทวดา” พร้อม

ผมมั่นใจว่าการออกกำลังกายด้วยการดูบอลโลกครั้งนี้

สุขภาพต้องดีแน่นอน