“เอเซีย พลัส” แนะหุ้นเด่น 9 ตัวรับกระแสบอลโลก

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงบรรยากาศช่วงใกล้ช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกว่า ปีนี้บรรยากาศน่าจะคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับประมาณการเม็ดเงินสะพัดในช่วงบอลโลกของทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยฝ่ายวิจัยได้รวบรวมข้อมูลหลักทรัพย์หรือหุ้นที่รับประโยชน์จากการกระแสบอลโลก จาก 4 กลุ่มหลัก ในกลุ่มสินค้าอุปโภค สินค้าบริโภค สื่อโฆษณาและบรรจุภัณฑ์ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดฯ ในช่วงเวลาประมาณ 1-2 เดือนที่มีการถ่ายทอดฟุตบอลโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4.2% รวมทั้งหมด 9 ตัว ดังนี้

นายภราดรกล่าวว่า สำหรับกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค แนะนำหุ้นบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือซีพีออลล์ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร และบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือโรบิ้นส์ กลุ่มอาหาร แนะนำหุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือมิ้นท์ และบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นเทล กลุ่มสื่อโฆษณา แนะนำหุ้นบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือแพลนบี และบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรืออมรินทร์ และกลุ่มบรรจุภัณฑ์ แนะนำ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรืออีพีจี

“หุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด (เอ้าท์เพอร์ฟอร์ม) ในช่วงฟุตบอลโลกและบอลยูโรในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา จะเป็นหุ้นอุปโภคบริโภค สื่อนอกบ้าน บรรจุภัณฑ์ รวม 6 บริษัท ได้แก่ บีเจซี มิ้นท์ เซ็นเทล ซีพีออลล์ โฮมโปรและโรบิ้นส์ ทั้งนี้ประเมินว่าเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะโทรทัศน์จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากปัจจัยสำคัญ 2 ประการคือ 1.ยอดขายกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากปีที่ผ่านมายอดขายโทรทัศน์ค่อนข้างซบเซา ลดลงไป 2.8% มีมูลค่ารวมประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท และ 2.อานิสงส์จากยอดขายในช่วงบอลโลก เช่น สมาร์ททีวีขนาดใหญ่” นายภราดรกล่าว

นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อดูปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว จะเห็นว่าบีเจซีให้ผลตอบแทนดีที่สุด เนื่องจากโครงสร้างรายได้มาจากบิ๊กซี 70% ขณะเดียวกันบริษัทก็มีรายได้จากกลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ภายหลังกลุ่มของนายเจริญ สิริวัฒนภักดีได้เข้าซื้อกิจการเบียร์ในเวียดนาม ส่วนซีพีออลล์ มีจุดเด่นจากเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีสาขาให้บริการประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ และได้เปรียบผู้เล่นรายอื่นในเรื่องเงื่อนไขเวลาที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ขณะที่หุ้นมิ้นท์ให้บริการเดอะพิซซ่า คอมพานี และหุ้นเซ็นเทลที่ให้บริการเคเอฟซี ต่างได้เปรียบเรื่องการให้บริการเดลิเวอรี่

นายพบชัยกล่าวว่า หุ้นโฮมโปรและโรบิ้นส์ ได้รับอานิสงส์จากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น อย่างโรบิ้นส์เป็นผู้ถือหุ้นในซูเปอร์สปอร์ต 40% และเพาเวอร์บาย 40% จะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอุปกรณ์เชียร์ต่างๆ เช่น เสื้อกีฬา ผ้าพันคอ หุ้นสื่อโฆษณา โดยเฉพาะ 3 ช่องหลัก ประกอบด้วย ช่อง 5 ทรูฟอร์ยูและอมรินทร์ ทีวี ที่ได้รับลิขสิทธิ์ให้ถ่ายทอดฟุตบอล คาดว่าส่งผลให้ช่องทีวีดังกล่าวเรตติ้งเพิ่มขี้น ขณะเดียวกันสื่อนอกบ้านอย่างแพลนบี คาดว่าได้รับอานิสงส์จากสื่อโฆษณานอกบ้าน และหุ้นอีพีจี ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เช่น หลอด กล่องอาหาร ตามความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย ระหว่างรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปีนี้