ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 พฤษภาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | โลกทรรศน์ |
ผู้เขียน | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ |
เผยแพร่ |
“…จุดสำคัญสูงสุดของเหตุการณ์ในเมียนมา จีนมีโอกาสไม่เพียงรักษาผลประโยชน์แห่งชาติของจีน แต่ยังมีอิทธิพลต่อผลของอนาคตในเมียนมาด้วย…”
นี่เป็นการประเมินของ Sithu1 ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของเมียนมา เขียนไว้เมื่อ 26 เมษายน 2024
ลองมาวิเคราะห์ว่าจีนมีบทบาทอย่างที่เขาเขียนไว้ในเมียนมาหรือไม่ เพราะอะไร?
จากข้อเขียนของ Krackhauer2 เขาเล่าสถานการณ์ของเมียนมาปัจจุบันว่า มีการแบ่งแยกระหว่างชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ในรัฐฉานตอนเหนือได้แก่ กลุ่ม TNLA, KIA และ MADAA ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างดินแดนเป็นของตน
และตอนนี้ จีนอยู่ในสถานภาพอย่างเชี่ยวชาญคือ quasi-vassal status3 ที่อาจแปลว่า สถานะกึ่งศักดินา มายาวนานหลายทศวรรษ อันหมายถึง สถานะเหนือกว่าแบบเจ้าขุนมูลนายของจีนต่อคนในเมียนมา
พร้อมกันนั้น Krackhauer ชี้ด้วยว่า สถานะของจีนในเมียนมาชัดเจนตั้งแต่ปี 1989 เป็นยุทธศาสตร์จีนต่อเนปิดอว์ คือ จีนไม่ไปเกี่ยวข้องกับระบบการเมืองเมียนมา ปล่อยให้ระบอบการเมืองนี้ดำเนินต่อไป และถือว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดของเมียนมา
Krackhauer ยังสรุปว่า ด้วยยุทธศาสตร์นี้เอง ช่วยให้จีนรักษาดุลยภาพของความยุ่งยากระหว่างระบอบการเมืองเมียนมากับกลุ่มต่อต้านที่แตกแยกกัน
เขายังชี้ให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์นี้จึงเป็นหลักประกันความปลอดภัยและให้ความก้าวหน้าสูงสุดของผลประโยชน์ของจีนภายในภูมิภาคนี้ด้วย สรุปจีนพอใจดุลภาพของรัฐบาลเมียนมากับชนกลุ่มน้อยที่แตกแยก
แต่สำหรับผม ผมมองตรงกันข้าม ภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน พวกเขาทำลายดุลยภาพเสียเอง
เมียนมาในปัจจุบัน
: นโยบายและฝ่ายต่างๆ
ผู้สังเกตการณ์หลายฝ่ายคาดว่า รัฐบาลทหารเมียนมาหรือ State Administration Council-SAC กำลังล่มสลาย หลังการสู้รบในยุทธการ 1027
บทบาทจีนและปฏิกิริยาของจีนต่อยุทธการ 1027 นั้น จีนมีอิทธิพลต่อกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ (Three Brother Alliance-3 BHA) และ SAC ที่ทำยุทธการ 1027 ล้มเหลว ด้วยไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องซ้ำๆ ของจีนให้จัดการศูนย์หลอกลวง (Scam Center) ในพื้นที่คนจีนตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์
อย่างไรก็ตาม ประเด็นศูนย์หลอกลวงคือ ผลประโยชน์ส่วนน้อยมากของจีนในเมียนมา นับจากรัฐประหารปี 2021 SAC ล้มเหลวในการรวมศูนย์อำนาจและสูญเสียอย่างสำคัญในการควบคุมดินแดน
ผลคือ SAC ไม่สามารถทำให้แน่ใจในเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อดำเนินการโครงการ ระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา (China-Myanmar Economic Corridor-CMEC) อันเป็นผลประโยชน์สำคัญอันดับแรกของจีนในเมียนมา CMEC และ 2 ท่อส่งน้ำมันและก๊าซของจีนในเมียนมา จากรัฐยะไข่ ทางตะวันตกเฉียงใต้ สู่รัฐฉานทางภาคอีสานที่เป็นข้อสรุปของจีนเพื่อใช้แก้ปัญหาช่องแคบมะละกา (Malacca Dilemma)
ปัญหานี้คือ จุดเปราะบางสำคัญของจีนที่นำเข้าน้ำมัน 80% ผ่านช่องแคบนี้ ที่อาจถูกสกัดกั้นโดยกองเรือหากเกิดความขัดแย้งขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการ CMEC ของจีนต้องล่าถอยเนื่องจากความไร้เสถียรภาพเพราะการทำรัฐประหารปี 2021 ในเมียนมา แต่จีนยังกระตือรือร้นทำโครงการเพื่อช่วยให้การสื่อสารและคมนาคมทางทะเลมั่นคง
ดังนั้น ด้วยผลประโยชน์สำคัญของจีนคือ เสถียรภาพทางการเมืองของเมียนมา
ทำให้จีนเป็นมหาอำนาจภายนอก ผู้ริเริ่มความพยายามเป็นตัวกลาง นำสันติภาพกลับสู่เมียนมา พร้อมทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ 3BHA กับ SAC
ก่อนรัฐประหาร 2021
จีนลงนาม CMEC กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคือ National League for Democracy Administration-NLD
แต่รัฐประหาร 2021 ที่ทำมั่วๆ ด้วยการคำนวณผิดพลาดของทหาร ขัดขวางแผนการของจีน
จีนพยายามผลักดัน CMEC ต่อไปโดยร่วมมือกับรัฐบาลทหาร SAC แต่แทนที่ปักกิ่งจะใส่ใจต่อความโกรธแค้นและความไม่พอใจของคนเมียนมา มีการประท้วงที่สถานทูตจีนในย่างกุ้ง การโจมตีการลงทุนจีนและรณรงค์ให้บอกเลิกกับจีน
แต่จีนไม่สนใจ มีหลายสมมุติฐานว่า ยุทธการ 1027 ของ SAC ได้รับอนุมัติโดยปริยายจากจีน
จนกระทั่งจีนหมดความอดทนต่อความไม่สามารถของ SAC ในการปกป้องหรือสนับสนุนผลประโยชน์จีนในเมียนมา
จีนอาจยอมรับว่า ความเกี่ยวพันกับ SAC มีราคาแพง ได้ผลตอบแทนต่ำ ดังนั้น การยุติทหารเมียนมาภายใน 24 ชั่วโมง
และล่าสุดจีนเป็นเบรกเกอร์การหยุดยิงระหว่าง 3 BHA กับ SAC อาจพิสูจน์ว่าไร้ประโยชน์
ปัจจัยสำคัญอยู่ที่จีน
ยุทธการ 1027 เกิดขึ้นหลัง นักการเมืองผู้คร่ำหวอด หวัง อี้ (Wang Yi) กลับมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอีกครั้งอันนับเป็นครั้งที่ 3 ของเขา4
หวัง อี้ เป็นกังวลมากว่ารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศคนก่อน ฉิน กัง (Qin Gang) ที่มองเห็นทหารของ SAC ไม่ใช่กำลังรบที่มีประสิทธิภาพ
และ US Burma Act หาใช่ตัวเปลี่ยนเกม ดังที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมาคาดหวัง
การเคลื่อนไหวก่อนและหลังยุทธการ 1027 ของจีนอาจเป็นสัญญาณแรกของการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ระยะยาวของจีนต่อเมียนมา
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของจีนต่อเมียนมา เรียกร้องจีนมากกว่าการใช้อิทธิพลของตนต่อกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ (Ethnic Armed Organizations-EAOs) ที่อยู่ในวงโคจรจีน ให้ต่อกรเทียบเท่ากับ SAC
ด้วยผลประโยชน์คือ เสถียรภาพทางการเมืองเมียนมา ทำให้จีนเสมือนเป็นผู้เล่นภายนอกผู้ริเริ่มพยายามเป็นตัวกลาง นำสันติภาพกลับสู่เมียนมา
จีนต้องการปรับเปลี่ยนมติมหาชนเมียนมา หรืออย่างน้อยที่สุด บรรเทาความรู้สึกต่อต้านจีน ที่เกิดขึ้นภายหลังการพบปะกันระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน ฉิน กัง กับพลเอกอาวุโส มิน อ่อง ลาย แล้วก่อผลกระทบต่อ CMEC และต่ออุบัติการณ์ เขื่อนมิตโซน (Myitsone Dam) โครงการก่อสร้าง 7 เขื่อนขนาดใหญ่บนแม่น้ำ 3 สายถูกระงับเมื่อปี 2011 โดยอดีตประธานาธิบดี เต็ง เส่ง (Thein Sein) เนื่องจากความไม่พอใจของคนเมียนมา
สิ่งนี้ได้เตือนปักกิ่งว่า การต่อต้านสาธารณะสามารถขัดขวางการลงทุนใหญ่จีนได้ ทางการจีนจึงรีบเอา ฉิน กัง ที่ทำตัวหายไปนาน 3 สัปดาห์ออก แล้วตั้ง หวัง อี้ แทน5
แล้วไม่เหมือนรัฐบาลชุดก่อนที่การตัดสินใจด้านการต่างประเทศ รวมศูนย์และตัดสินแบบบนสู่ล่าง (top down) ตอนนี้รัฐบาล SAC ต้องนำมติมหาชนและการตัดสินใจของรัฐบาลท้องถิ่นเข้ามาพิจารณา ตามบทบัญญัติประชาธิปไตยสหพันธรัฐ (Federal Democracy Charter) ที่อนุญาตรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นปรึกษาและตัดสินใจร่วมกัน
การลดกระแสต้านจีน ปักกิ่งต้องจำกัดความผูกพันของตนกับ SAC และเพิ่มความผูกพันทันทีและเห็นเด่นชัดกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา รวมทั้งรัฐบาลเงาของฝ่ายต่อต้าน NUG, EAUS และในภูมิภาคของคนพม่าหรือ Bamma ส่วนใหญ่ในภูมิภาคมัณฑะเลย์ Magwe และ Sagaing ที่กระแสต่อต้านจีนสูงสุด
ความเหนือกว่าของปักกิ่ง สามารถช่วยเป็นตัวกลางสร้างเสถียรภาพในอนาคต
แต่จะเรียกร้องการพิจารณาแนวทางอื่นๆ ด้วย เช่น เปลี่ยนทัศนคติเชิงลบต่อจีน กดดัน 3BHA ให้หยุดยิงกับ SAC ในรัฐฉานตอนเหนือ หรือพยายามแบบเดียวกันต่อทหารอาระกัน (Arakan Army) ในรัฐยะไข่
อาจเป็นผลดีกว่าขัดเกลาภาพลักษณ์จีน
สรุป
จีนอาจต้องยอมรับว่า ความเกี่ยวพันกับ SAC มีราคาแพง แต่ได้ผลตอบแทนต่ำ
SAC เสียเอง ได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของจีนในเมียนมาคือ เสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งเป็นฐานรองรับ CMEC แม่ข่ายผลประโยชน์ของจีนในเมียนมา
ดังนั้น ชัยชนะทั้งทางยุทธศาสตร์และจิตวิทยาของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมาทั้งมวล มีปัจจัยจีนหนุนเนื่องไม่ขาดสาย
1Sithu, “China’s Engagement with the Myanma Junta : A High Cost, Low Returns Deal” Fulcrum, 26 April 2024 : 1.
2Krackhauer, China’s Geopolitics Chessboard and Myanmar, 26 April 2024 : 1.
3Ibid., : 3.
4Yukio Tajima, “China’s Wang Yi picks up third job with return as foreign minister”, Nikkei, 28 July 2023, : 1-2.
5The National People’s Congress Standing Committee ประชุมด่วนปลด ฉิน กัง ผู้ล้มเหลวหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องเมียนมา แล้วตั้ง หวัง อี้ แทน อ้างใน CK Tan and Kenji Kawase, “China removes Foreign Minister Qin Gang, reappoints Wang Yi”, Nikkei, 25 July 2023 : 2-3.
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022