หนุ่มเมืองจันท์ : BNK48

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ตอนที่ผมจะสัมภาษณ์ “ต้อม” จิรัฐ บวรวัฒนะ บิ๊กบอสของ BNK48 ทางเฟซบุ๊ก

ผมนึกถึงตอนที่เคยเขียนเรื่อง AF1

ตอนนั้นรายการ Academy Fantasia หรือ AF เพิ่งเข้ามาในเมืองไทย

ซีซั่นแรก “วิทย์” ได้แชมป์

แต่คนที่แจ้งเกิดและโด่งดังที่สุดในโลกแห่งความเป็นจริง คือ “ออฟ” ปองศักดิ์

AF เป็นรายการเรียลลิตี้ 24 ชั่วโมง

คัดเลือกน้องๆ มาอยู่ในบ้าน ทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นกินข้าว ซ้อมร้องเพลง การแสดง หรือเข้านอนจะอยู่ในสายตาคนดูตลอดเวลา

ตอนนั้นรายการนี้จะอยู่ใน “ยูบีซี” หรือ “ทรูวิชั่นส์” เพียงช่องเดียว

ซีซั่นแรกดังมากครับ แม้สถานที่หรือเวทีการแสดงก็ทำแบบง่ายๆ

แต่ความดังนั้นอยู่ในวงจำกัด

คือ สมาชิก “ทรูวิชั่นส์” ซึ่งเป็นเคเบิลทีวีที่ต้องจ่ายเงินค่าสมาชิก

คนทั่วไปจะไม่รู้จักเลย

ผมเขียนเรื่องของ AF1 ในคอลัมน์นี้

จำได้ว่าเขียนถึง “จุ้มจิ้ม”

เชื่อไหมครับว่าสถานการณ์ในวันนั้นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มหนึ่ง กรี๊ดสลบ

เพราะเป็นสมาชิกทรูวิชั่นส์

เป็นแฟนคลับ AF

อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่

อยู่ในสภาพ “แอร์ดัง”

ใครวะ!!!

แต่หลังจาก AF1 ดังระเบิดในกลุ่มสมาชิก “ทรูวิชั่นส์” เริ่มมั่นใจและขยายวงเข้าสู่ช่องทีวีปกติ

ทำให้การรับรู้ของคนกว้างขวางขึ้น

จน AF กลายเป็น “กระแส” โด่งดังในเวลาต่อมา

พอ AF เริ่มดัง ผมก็เริ่มยืด

กลายเป็นคนนำกระแสเพราะเขียนถึงก่อนใคร

…จมูกดี

ได้กลิ่นก่อน

BNK48 ก็เช่นกัน

บอกตามตรงว่าผมไม่ได้ “อิน” กับ BNK48 เหมือนกับ AF

ไม่ได้ติดตามเลย

แต่จับกระแสได้ว่าไอดอลกลุ่มนี้กำลังมา

จมูกทำงานแค่ระดับ “รู้”

ไม่ได้ “รู้สึก”

พอได้กลิ่นก็สงสัยว่า BNK48 คืออะไร

โชคดีมาเจอ “ต้อม” ที่เรียน ABC Real รุ่น 2 และ ABC 7

พอรู้ว่าเขาเป็นคนแจ้งเกิดไอดอลกลุ่มนี้ก็เลยได้คุยกัน

ยิ่งคุยยิ่งสนุก

เพราะ BNK48 เป็น “โมเดลใหม่” ของธุรกิจบันเทิงไทย

แต่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นมากว่า 10 ปีแล้วในชื่อ AKB48

ตอนแรกผมนึกว่าเป็นศิลปินกลุ่มแบบเกิร์ลกรุ๊ปทั่วไป

แต่จำนวนคนนั้นเยอะมาก

ตอนอ่านข่าววงนี้แล้วยังอดขำไม่ได้

ศิลปินวงอะไรมีตั้ง 88 คน

ตั้งทีมฟุตบอลได้ตั้ง 8 ทีม

แต่พอรู้วิธีคิดแล้วน่าสนใจครับ

“ต้อม” บอกว่า BNK48 ของไทยและ AKB48 ของญี่ปุ่นไม่ใช่ “ศิลปิน” หรือ “นักร้อง”

แต่เป็น “ไอดอล”

มีแฟนคลับติดตามเพราะชื่นชอบในตัวของน้องๆ

การคัดเลือกคนเข้าวงก็ไม่ได้เลือกจากหน้าตาสวยที่สุด

ร้องเพลงเพราะที่สุด

หรือเต้นเก่งที่สุด

แต่เลือกจากคนที่มี “เสน่ห์” ครับ

อธิบายยากครับคำนี้

พอคัดเลือกเสร็จค่อยมาฝึกหัด

วิธีคิดนี้แตกต่างจากการคัดเลือกศิลปินของค่ายเพลงที่จะเลือกคนที่เก่งที่สุด

บ่มเพาะเงียบๆ ไม่เปิดตัวให้ใครรู้จัก

พร้อมทุกด้านแล้วจึงค่อยเปิดตัว

ตามปกติเราจะเจอ “ศิลปิน” ตอนที่เขาเก่งแล้ว

แต่ BNK48 เด็กที่เข้ามาคัดเลือก บางคนเต้นไม่เป็น ร้องเพลงไม่เพราะ

มีแต่ “ความฝัน” แบบเด็กสาวทั่วไปที่เป็นแฟนคลับของ AKB48

อยากอยู่บนเวทีแบบนี้บ้าง

เด็กที่มาคัดเลือกก็กล้าหาญมาก เพราะตามปกติถ้าเราไม่เก่ง เราจะไม่กล้ามาคัด

แต่เด็กพวกนี้กล้า

เพราะมี “ความฝัน”

และ “ความฝัน” มี “พลัง”

แต่ที่กล้าหาญกว่าก็คือ กรรมการคัดเลือก

การเลือกคนไม่เก่งแต่มีเสน่ห์

และจินตนาการว่าจะฝึกให้เก่งได้

ต้องถือว่ากล้าหาญจริงๆ

ถ้ามองแบบธุรกิจ

“โมเดล” นี้น่าสนใจ

เพราะ BNK48 ไม่ใช่ “ศิลปิน”

แต่เป็น “ไอดอล” ที่เราสามารถพบปะได้ตลอด

ตามโมเดลของญี่ปุ่น ต่อไปจะต้องมีโรงละครของตัวเองไว้ให้น้องๆ ผลัดกันมาโชว์

ให้แฟนคลับได้มาพบปะได้เป็นประจำ

ที่สำคัญ “ต้อม” บอกว่า “จุดขาย” ของ BNK48 คือ “ความพยายาม”

จากเด็กที่ไม่เก่ง มาฝึกทุกวัน

จากจุดแรกที่ไม่เก่ง

พยายาม-พยายาม-พยายาม

แล้วค่อยๆ เก่งขึ้นเรื่อยๆ

นั่นคือ “จุดขาย”

แฟนคลับก็เข้ามาให้กำลังใจ ซื้อของขวัญ ของที่ระลึก

BNK48 เกิดขึ้นในช่วงที่ “โซเชียลมีเดีย” มาแรงมาก

การสร้างฐานแฟนคลับของน้องๆ แต่ละคนจึงไม่ใช่เรื่องยาก

ที่น่าสนใจก็คือกลุ่มแฟนคลับที่เรียกว่า “โอตะ”

“ผู้หญิง” จะเป็นเด็กอายุน้อยๆ ต่ำกว่า 18 เป็นส่วนใหญ่

แต่ “ผู้ชาย” ส่วนใหญ่จะอายุเยอะหน่อย

30 ขึ้นไป

เขามี “ตู้กระจก” ที่ “เอ็มควอเทียร์” ให้น้องๆ ผลัดกันมาทำกิจกรรมต่างๆ ให้แฟนๆ ได้ชมกัน

ใครผ่านไปคงจะเห็น

มีกิจกรรม “จับมือ”

ซื้อซีดีจะได้ “บัตรจับมือ”

ได้จับมือน้องๆ ที่เราเป็นแฟนคลับ

เป็นกิจกรรมที่แปลกมาก เป็นการส่งพลังระหว่างแฟนคลับกับน้องๆ ที่เป็น “ไอดอล” ของเขาผ่านการจับมือคนละ 10 วินาที

ครั้งแรก เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ “เซ็นทรัล บางนา”

แฟนคลับล้นทะลักเลยครับ

นอกจากนั้น ยังมีกติกาอื่นๆ อีกมากมาย

ซับซ้อนพอๆ กับกฎหมายเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญใหม่

วันที่ผมบอกในเฟซบุ๊กว่าจะสัมภาษณ์ “ต้อม” และน้องๆ BNK48 อีก 3 คน คือ “อร-เจน-ไข่มุก”

บรรยากาศเหมือนตอนที่ผมเขียนถึง AF1 เลยครับ

มีทั้ง “กรี๊ด” และ “แอร์ดัง”

“รู้” กับ “ไม่รู้จัก”

ผมไม่รู้ว่า BNK48 จะประสบความสำเร็จหรือไม่

แต่เป็นโมเดลธุรกิจบันเทิงใหม่ที่น่าสนใจมาก

โดยเฉพาะในวันที่โมเดลค่ายเพลงแบบเดิมๆ เจอเทคโนโลยี Distrupt เรียบร้อยแล้ว

โมเดลของ BNK48 จึงน่าจับตามองครับ

ครับ ถ้าดังขึ้นมาละก็…

…เพดานทะลุแน่