จังหวะก้าวทางการเมืองของ “กกต.” ในห้วงเดือนกรกฎาคมมากด้วยความรัดกุม

ตั้ง “การ์ด” เข้ม

ไม่ว่าจะปล่อยกรณีเลือกตั้งในวันที่ 19 สิงหาคม 2561 ไม่ว่าจะการขยับในการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ล้วนเป็นเรื่องของ “ส่วนรวม” ล้วนเป็นประเด็นในทางข้อ “กฎหมาย”

เด่นชัดว่า “ลอยตัว” จาก “เซ็ตซีโร่”

ไม่ว่า นายศุภชัย สมเจริญ ไม่ว่า นายประวิช รัตนเพียร ไม่ว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยืนยันตรงกัน

เรื่อง “เซ็ต ซีโร่” พ้นไปแล้ว

 

กรณีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่ประเด็นอันเกี่ยวกับ “เซ็ต ซีโร่”

หากเป็นในเรื่อง “อำนาจ” และ “หน้าที่”

1 เป็นอำนาจและหน้าที่ของกกต.ในเรื่องการระงับยับยั้งการเลือกตั้ง 1 เป็นอำนาจและหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น

เนื่องจากไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของ “รัฐธรรมนูญ”

“เป็นปัญหาทางกฎหมายถ้าไม่ทำความเห็นไว้ตรงนี้แล้วเกิดมีปัญหาในอนาคตจะกลายเป็นว่ากกต.ไม่ทักท้วง”

ยืนยันจาก นายประวิช รัตนเพียร

“ศาลจะพิจารณาอย่างไร จะรับคำร้องหรือไม่รับขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล วันนี้กกต.ถือว่าทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วเมื่อศาลพิจารณาอย่างไรเราก็เคารพ”

พับเพียบ เรียบร้อย

 

ในความสุภาพ ในความนิ่มนวลของกกต.เสียงจาก นายวิษณุ เครืองาม ก็ยอมรับ

“สามารถทำได้”

กระนั้น ผลอันเกิดขึ้นโดยพลันก็คือ หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องจากกกต.

“ก็ต้องชลอการทูลเกล้าฯไว้ก่อน”

เป็นไปตามความคาดหมายของ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ จากพรรคประชาธิปัตย์

เว้นแต่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะไม่รับ