ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มีนาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว
เมื่อวัฒนธรรมการใช้คำลำดับญาติของคนไทยที่มีมายาวนานได้สร้างความขัดแย้งขึ้นมาในสังคมไทย
คนไทยนั้นต่างจากฝรั่ง
คนตะวันตกเวลาเจอกัน เขาจะเรียกชื่อกันไปเลย
ไม่มีการเรียกว่า “พี่-อา-น้า-ป้า-ยาย”
ทุกคนเท่ากัน
แต่เมืองไทย เราจะคุ้นชินกับการใช้สรรพนามแบบลำดับญาติในการเรียกขานกัน
สมัยก่อนไม่มีปัญหามากนัก
แต่วันนี้เรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่
ก่อนหน้านี้ ผู้ชายอายุ 50 ปี มีปฏิกิริยาไม่พอใจที่ “สื่อ” เรียกวิศวกรอายุ 52 ปีที่ยิงวัยรุ่นอายุ 17 ปีเสียชีวิต
ว่า… “ลุง”
จากนั้นมีการรื้อฟื้นข่าวเก่าเรื่อง “ตา-ยาย” เก็บเห็ดในป่าสงวนที่กาฬสินธุ์แล้วถูกจับติดคุก
“ตา” นั้นอายุ 53 ปี
ส่วน “ยาย” อายุ 48 ปี
ผู้หญิงอายุ 40 กว่ากรี๊ดกันสนั่นเมือง
มีคนบอกว่า หากมีการปฏิรูปสื่อขึ้นมา เรื่องแรกที่ต้องมีการหยิบยกขึ้นมาคือเรื่องนี้
ต้องระบุให้ชัดว่าคนที่ “สื่อ” จะเรียกว่า “ลุง-ตา-ยาย” ต้องอายุเท่าไร
นั่นคือประเด็นที่มีการคุยกันแบบ “ขำ-ขำ” บนโต๊ะอาหาร
หรือตามโซเชียลมีเดีย
วันก่อนเป็นเรื่องคุยกันขำ-ขำ
แต่วันนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่จริงจัง
จากข่าวชาวบ้านกลายเป็นข่าวการเมือง
เมื่อ นายอนุสร จิรพงศ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อายุ 60 ปี ไม่พอใจที่พนักงานบาร์เทนเดอร์ในร้านอาหารเรียกตัวเองว่า “ป๋า”
ก็เลยสะบัดหลังมือไป 1 ฉาด
เจอข้อหาทำร้ายร่างกาย
กลายเป็น “ข่าวใหญ่” ไปทันที
ทั้งที่ในทางการเมืองการใช้คำลำดับญาติถือเป็นการยกย่อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สื่อก็เรียกว่า “ลุงตู่”
ในขณะที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษอาวุโสและประธานองคมนตรี
ใครๆ ก็เรียกว่า “ป๋าเปรม”
และตัว พล.อ.เปรม ก็แทนตัวเองว่า “ป๋า”
หรือผู้ใหญ่ในแวดวงการเมืองอย่าง นายเสนาะ เทียนทอง
ใครๆ ก็เรียกว่า “ป๋าเหนาะ”
คำว่า “ป๋า” ในแวดวงการเมืองจึงเป็นคำยกย่อง
แต่พอไปอยู่ในร้านอาหาร
กลายเป็นคำดูหมิ่น
แบบนี้ต้องเอาเรื่องเข้าสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ใช่ไหมครับ “ป๋า”