ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 พฤษภาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด
Facebook : @Pitsanuofficial
การออกกำลังกายกับการนอนหลับ
อย่างไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน
ถามว่าถ้าหากมีเวลาว่าง การออกกำลังกายหรือการนอนหลับ เราควรทำสิ่งไหนมากกว่ากัน
เรื่องนี้หลายๆ คนอาจจะให้ความสำคัญแตกต่างกันออกไป
จริงๆ แล้วทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และกิจกรรมทั้งสองก็มีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน
เชรี่ หม่า (Cheri Mah) นักวิจัยเรื่องยานอนหลับของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย บอกว่าการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้นอนหลับสนิท
เมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแล้ว เราก็สามารถตื่นขึ้นมาออกกำลังกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ในบางโอกาสที่เรามีเวลาทำกิจกรรมเพิ่มขึ้นจากปกติสัก 1 ชั่วโมง ถามเชรี่ว่าควรจะเลือกนอนหลับให้นานขึ้น หรือเพิ่มชั่วโมงในการออกกำลังกาย
เชรี่ตอบว่า การนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์
จากการศึกษาหลายแห่งพบว่าคนเราควรนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงจึงจะเพียงพอ หลายคนคิดว่าตัวเองสามารถทำงานได้ปกติแม้จะนอนน้อยกว่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
เชรี่ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะร่างกายพวกเขาเคยชินกับความรู้สึกอ่อนเพลียจนเข้าใจผิดคิดว่าร่างกายยังปกติดี แต่เมื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพ พบว่าร่างกายพวกเขาทำงานได้ไม่เต็มที่
นอกจากนี้ การนอนหลับอย่างเต็มอิ่มยังดีต่อรอบเอวและสุขภาพโดยรวมด้วย
ดร.ซานเจย์ กูปตา (Dr. Sanjay Gupta) ศัลยแพทย์ทางด้านประสาทและผู้ดำเนินรายการ ด้านการแพทย์ประจำ CNN บอกว่า เวลาที่เรานอนไม่พอ เราจะยิ่งทานอาหารได้มากขึ้น เรื่องนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะสมองคนเรามีบริเวณหนึ่งที่เรียกว่าศูนย์อิ่ม (Satiation center) ซึ่งมีหน้าที่รับความรู้สึกอิ่มเวลาร่างกายได้รับอาหารเพียงพอ
แต่เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองส่วนนี้จะทำงานไม่เต็มร้อย ทำให้แม้กินเยอะแล้วก็ยังไม่รู้สึกอิ่ม
ถาม ดร.ซานเจย์ว่าหากเขามีเวลาเพิ่มขึ้นสัก 1 ชั่วโมง ให้เลือกระหว่างนอนหลับนานขึ้นกับออกกำลังกายเพิ่มอีกสักหน่อย ควรจะเลือกอะไร
ดร.ซานเจย์เลือกนอนหลับเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง
แคธี่ โกรเมอร์ (Kathy Gromer) ผู้อำนวยการสถาบันการนอนหลับแห่งมินนิโซตา (Minnesota Sleep Institute) บอกว่าการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะบั่นทอนสมรรถภาพ และทำให้สูญเสียสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ
นอกจากนี้ เมื่อรู้สึกอ่อนเพลียก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น
จากโพลสำรวจในอเมริกาเรื่องการนอนหลับเมื่อปี 2013 โดยสถาบันการนอนหลับแห่งสหรัฐอเมริกา (National Sleep Foundation) พบว่าคนที่ออกกำลังกายอย่างกระฉับกระเฉงจำนวน 83% และคนที่ออกกำลังกายปานกลางอีก 77% บอกว่าพวกเขานอนหลับสนิทในแต่ละคืน ส่วนคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยมีเพียง 56% ที่บอกว่าตัวเองนอนหลับสนิท
การที่เรานอนหลับไม่สนิทในแต่ละคืน ส่วนหนึ่งมาจากการนอนที่ผิดสุขลักษณะ
วันนี้มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทำอย่างไรจึงจะช่วยให้เราสามารถหลับได้อย่างสนิททุกคืน
1. พยายามเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน
2. ปรับอุณหภูมิในห้องนอนให้เย็นพอเหมาะ ดร.ซานเจย์แนะนำว่าห้องนอนควรมีอุณหภูมิสักประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส ส่วนสถาบันการนอนหลับแห่งอเมริกาแนะนำว่าควรอยู่ประมาณ 15-19 องศาเซลเซียส สำหรับคนไทยอาจจะปรับอุณหภูมิขึ้นมาได้อีกหน่อยตามที่รู้สึกว่าเหมาะสม
3. อย่ากินอาหารมื้อหนักใกล้ๆ ช่วงเข้านอน หากเป็นไปได้ควรจะกินก่อนนอนอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง
4. หลีกเลี่ยงกาเฟอีนในช่วงเย็น
5. พยายามทำให้แสงเข้าห้องนอนน้อยที่สุดและเงียบที่สุด
6. ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตอนใกล้จะเข้านอน และควรเอาไว้นอกห้อง
7. ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงเบาๆ อ่านหนังสือ หรือนอนแช่น้ำอุ่นๆ ก่อนที่จะซุกตัวใต้ผ้าห่มก็ช่วยให้มีสมาธิและหลับอย่างสนิทได้
ขอให้คืนนี้หลับสนิท ฝันดีตลอดคืนครับ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022