การออกกำลังกายกับการนอนหลับ อย่างไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

การออกกำลังกายกับการนอนหลับ

อย่างไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน

 

ถามว่าถ้าหากมีเวลาว่าง การออกกำลังกายหรือการนอนหลับ เราควรทำสิ่งไหนมากกว่ากัน

เรื่องนี้หลายๆ คนอาจจะให้ความสำคัญแตกต่างกันออกไป

จริงๆ แล้วทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และกิจกรรมทั้งสองก็มีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน

 

เชรี่ หม่า (Cheri Mah) นักวิจัยเรื่องยานอนหลับของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย บอกว่าการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้นอนหลับสนิท

เมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแล้ว เราก็สามารถตื่นขึ้นมาออกกำลังกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ในบางโอกาสที่เรามีเวลาทำกิจกรรมเพิ่มขึ้นจากปกติสัก 1 ชั่วโมง ถามเชรี่ว่าควรจะเลือกนอนหลับให้นานขึ้น หรือเพิ่มชั่วโมงในการออกกำลังกาย

เชรี่ตอบว่า การนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์

จากการศึกษาหลายแห่งพบว่าคนเราควรนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงจึงจะเพียงพอ หลายคนคิดว่าตัวเองสามารถทำงานได้ปกติแม้จะนอนน้อยกว่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่

เชรี่ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะร่างกายพวกเขาเคยชินกับความรู้สึกอ่อนเพลียจนเข้าใจผิดคิดว่าร่างกายยังปกติดี แต่เมื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพ พบว่าร่างกายพวกเขาทำงานได้ไม่เต็มที่

นอกจากนี้ การนอนหลับอย่างเต็มอิ่มยังดีต่อรอบเอวและสุขภาพโดยรวมด้วย

 

ดร.ซานเจย์ กูปตา (Dr. Sanjay Gupta) ศัลยแพทย์ทางด้านประสาทและผู้ดำเนินรายการ ด้านการแพทย์ประจำ CNN บอกว่า เวลาที่เรานอนไม่พอ เราจะยิ่งทานอาหารได้มากขึ้น เรื่องนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะสมองคนเรามีบริเวณหนึ่งที่เรียกว่าศูนย์อิ่ม (Satiation center) ซึ่งมีหน้าที่รับความรู้สึกอิ่มเวลาร่างกายได้รับอาหารเพียงพอ

แต่เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองส่วนนี้จะทำงานไม่เต็มร้อย ทำให้แม้กินเยอะแล้วก็ยังไม่รู้สึกอิ่ม

ถาม ดร.ซานเจย์ว่าหากเขามีเวลาเพิ่มขึ้นสัก 1 ชั่วโมง ให้เลือกระหว่างนอนหลับนานขึ้นกับออกกำลังกายเพิ่มอีกสักหน่อย ควรจะเลือกอะไร

ดร.ซานเจย์เลือกนอนหลับเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง

แคธี่ โกรเมอร์ (Kathy Gromer) ผู้อำนวยการสถาบันการนอนหลับแห่งมินนิโซตา (Minnesota Sleep Institute) บอกว่าการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะบั่นทอนสมรรถภาพ และทำให้สูญเสียสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ

นอกจากนี้ เมื่อรู้สึกอ่อนเพลียก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น

 

จากโพลสำรวจในอเมริกาเรื่องการนอนหลับเมื่อปี 2013 โดยสถาบันการนอนหลับแห่งสหรัฐอเมริกา (National Sleep Foundation) พบว่าคนที่ออกกำลังกายอย่างกระฉับกระเฉงจำนวน 83% และคนที่ออกกำลังกายปานกลางอีก 77% บอกว่าพวกเขานอนหลับสนิทในแต่ละคืน ส่วนคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยมีเพียง 56% ที่บอกว่าตัวเองนอนหลับสนิท

การที่เรานอนหลับไม่สนิทในแต่ละคืน ส่วนหนึ่งมาจากการนอนที่ผิดสุขลักษณะ

วันนี้มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทำอย่างไรจึงจะช่วยให้เราสามารถหลับได้อย่างสนิททุกคืน

1. พยายามเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน

2. ปรับอุณหภูมิในห้องนอนให้เย็นพอเหมาะ ดร.ซานเจย์แนะนำว่าห้องนอนควรมีอุณหภูมิสักประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส ส่วนสถาบันการนอนหลับแห่งอเมริกาแนะนำว่าควรอยู่ประมาณ 15-19 องศาเซลเซียส สำหรับคนไทยอาจจะปรับอุณหภูมิขึ้นมาได้อีกหน่อยตามที่รู้สึกว่าเหมาะสม

3. อย่ากินอาหารมื้อหนักใกล้ๆ ช่วงเข้านอน หากเป็นไปได้ควรจะกินก่อนนอนอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง

4. หลีกเลี่ยงกาเฟอีนในช่วงเย็น

5. พยายามทำให้แสงเข้าห้องนอนน้อยที่สุดและเงียบที่สุด

6. ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตอนใกล้จะเข้านอน และควรเอาไว้นอกห้อง

7. ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงเบาๆ อ่านหนังสือ หรือนอนแช่น้ำอุ่นๆ ก่อนที่จะซุกตัวใต้ผ้าห่มก็ช่วยให้มีสมาธิและหลับอย่างสนิทได้

ขอให้คืนนี้หลับสนิท ฝันดีตลอดคืนครับ