E-DUANG : ​​”เสียงแห่งความเงียบ”จาก”ธรรมกาย”

ไม่ว่าจะฟังจาก ไซมอน แอนด์ การ์ฟันเคล ไม่ว่าจะฟังจาก เลียวนาร์ด โคเฮน

“เสียงแห่งความเงียบ” ทรง”ความหมาย”

กระนั้น “ความเงียบ”อันดำรงอยู่ภายใน”วัดพระธรรมกาย”ก็เป็นความเงียบอย่างไม่ธรรมดา

คล้ายกับ “ความเงียบ” ของ สุชาติ สวัสดิ์ศรี

เพราะว่าอีกชื่อ 1 ของหนังสือ “ความเงียบ”อันนิยามอย่างรวบรัดยิ่งจาก ลาว คำหอม คือ

“ต๋อม”

เท่ากับรับรองและยืนยันว่า “ความเงียบ”มิได้เป็นความเงียบหากแต่ยังมี “เสียง”

จากยุคแห่งคริสตทศวรรษที่ 60 สะท้อนให้เห็นว่า”เสียงแห่ง ความเงียบ” จากการเขียนเป็นกวีนิพนธ์เพลง

โดย พอล ไซมอน มีบทบาทและทรงความหมาย

เช่นเดียวกับ “ความเงียบ” ภายใน”วัดธรรมกาย”

ทั้งๆที่สำนักธรรมกายมี “สื่อ” เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสื่อทีวี ไม่ว่าจะเป็นสื่อวิทยุ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสื่อสารองค์กร

แต่ พระเทพญาณมหามุนี ไม่เคย”แถลง”

ยิ่ง พระราชภาวนาจารย์ ซึ่งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ยิ่งไม่เคยกล่าวอะไร

ทั้งยัง “แต่งตั้ง” สมณะอื่นเข้ามาปฏิบัติหน้าที่”แทน”อีก

พระมหานพพร ปุญญชโย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารองค์กร ก็ไม่พูด

นายองอาจ ธรรมนิทา ยิ่งปิดปาก

โดยเฉพาะที่เคยยืนยันว่า พระเทพญาณมหามุนี ยังคงจำวัดอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย

ไม่มีใครออกมา “ยืนยัน”

ล่าสุดก็ปล่อยยอดคำเท่ออกมาว่า “ไม่ว่าหลวงพ่อจะอยู่ที่ไหนแต่ท่านก็อยู่ในใจลูกศิษย์เสมอ”

“ความเงียบ”จึงดังกึกก้องใน”ธรรมกาย”

ถามว่าเหตุใดบรรดา “นักเทศนาธรรม” และบรรดา”โฆษก”ทั้งหลายแห่งวัดธรรมกายจึงต้อง “เงียบ”

คำตอบก็คือ “จำเป็น”

เพราะหาก พระราชภาวนาจารย์ ออกมาระบุว่า พระเทพญาณ มหามุนี ยังอยู่ในวัด

ก็จะ”เข้าตัว”

เนื่องจากทั้ง “ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”พร้อมจะแจ้งความกล่าวโทษทั้งมาตรา 157 และมาตรา 187

“มาตรการ” นี้จึงเท่ากับเป็นการ”ปิดปาก”

กระนั้น เสียงสวดธัมมจักกัปปวตสูตรก็ยังคงดังมาจากภายในวัดพระธรรมกาย

รถยนต์นับหมื่นยังเข้า-ออกอยู่ไม่ขาดสาย

“เสียงแห่งความเงียบ”จึงกลายเป็น “พลานุภาพ” อันเปล่งออกมาจาก “วัดพระธรรมกาย”