BABYLON | ‘โลกมายา’

นพมาส แววหงส์

ย้อนเวลากลับไปสู่อดีตกาลในยุคสมัยที่ได้รับการขนานนามว่า The Roaring Twenties ในทศวรรษ 1920 ณ เมืองสวรรค์ชั้นฟ้าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้ชื่อเหมือนกรุงเทพฯ ของเราว่า City of Angels สมัยเมื่อฮอลลีวู้ดกำลังเพิ่งจะอยู่ในระยะก่อตัวขึ้นเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ในอเมริกา

ช่วงนั้นยังเป็นยุคของหนังเงียบ ซึ่งหมายถึงหนังที่ถ่ายทำด้วยภาพเคลื่อนไหวเท่านั้น ถ้าตัวละครจะต้องพูดกัน ก็จะมีตัวหนังสือขึ้นบนจอสำหรับให้คนดูติดตามเรื่อง

บอกเสียหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยดูหนังเงียบ ว่า หนังเงียบไม่ได้ดูในบรรยากาศเงียบสนิทนะคะ ในโรงหนังเขาใช้นักดนตรี ปกติจะเป็นนักเปียโน เล่นดนตรีสดคลอไปกับการฉายหนัง

แต่วงการภาพยนตร์กำลังจะเจอการเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่อง เมื่อเกิดพัฒนาการของ “หนังเสียง (sound film)” หรือ “หนังพูด (talkie)”

Babylon เริ่มต้นที่ “งานช้าง” เพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ คือการขนส่งช้างตัวหนึ่งมาที่คฤหาสน์ของผู้อำนวยการสร้างคนดัง เพื่อเปิดตัวอย่างอลังการในงานปาร์ตี้สุดสวิงของวงการ

เป็นงานเลี้ยงที่เมาเละทั้งเหล้ายาปลาปิ้งสิ่งเสพติดครบถ้วน มั่วเละทั้งกามและเกม โชว์ปลุกใจเสือป่าและโชว์สด

ปาร์ตี้มั่วเละซึ่งกินความยาวร่วมครึ่งชั่วโมงนี่เองเป็นที่มาของชื่อหนัง Babylon

บาบิลอนเป็นเมืองโบราณในอารยธรรมเมโสโปเตเมียอันเคยรุ่งเรืองถึงที่สุด แต่ก็กลายเป็นอุปมาสำหรับความเสื่อมโทรมเสื่อมทรามแบบที่เป็นผลพวงที่ตามหลังความเจริญถึงขีดสุด

ปาร์ตี้สุดสวิงนี้แนะนำตัวละครสำคัญและตัวละครเกี่ยวข้องหลายตัว

กล่าวคือ แมนนี่ ตอร์เรส (ดิเอโก คัลวา) หนุ่มเม็กซิกันที่ต้องการเข้าไปทำงานในกองถ่าย ด้วยเหตุผลว่าเขาต้องการจะเป็นส่วนร่วมอยู่ในบางสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเขา แมนนี่ได้รับเชิญมางานเพราะเขามีส่วนอยู่ในการขนช้างมาในดินแดนที่ช้างไม่ใช่สัตว์ท้องถิ่น

เนลลี่ ลารอย (มาร์โกต์ ร็อบบี้) สาวใจแตกและใจถึงจากนิวเจอร์ซีย์ที่อยากเข้าวงการสู่ความเป็นดารา และหาทางเข้างานในฐานะแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

แจ็ก คอนราด (แบรด พิตต์) ดาราใหญ่ในวงการผู้ชอบกวนประสาทให้ภรรยาคนปัจจุบันสติแตกจนต้องขอหย่า

เอลิเนอร์ เซนต์จอห์น (จีน สมาร์ต) นักเขียนคอลัมน์ซุบซิบที่ทำตัวสนิทสนมกลมเกลียวกับดารา

เลดี้เฟย์ (ลี จุน ลี) นักร้องคาบาเรต์เชื้อสายจีนที่มีรสนิยมทางเพศผิดยุคแบบที่สังคมอเมริกันสมัยนั้นยังไม่ยอมรับ และต้องเนรเทศตัวเองไปอยู่ยุโรปที่ดูเหมือนจะมีเสรีมากกว่า

ซิดนีย์ พาล์เมอร์ (โจวาน อาเดโป) นักเป่าทรัมเป็ตผิวดำผู้มีพรสวรรค์ แต่ยังดำไม่พอเมื่อโดนแสงไฟในการถ่ายทำหนัง

ฯลฯ ฯลฯ

ตัวละครสองตัวหลัง ซึ่งดูเหมือนจะช่วยส่งเสริมประเด็นและเนื้อหาของหนังให้ได้อรรถรสสมบูรณ์ขึ้น กลายเป็นว่าถูกละเลยและไม่ได้รับการพัฒนาแคแร็กเตอร์เท่าที่ควร จนดูเหมือนจะเป็นติ่งที่งอกออกมาโดยไม่จำเป็น ทำให้หนังยาวถึงสามชั่วโมงโดยใช่เหตุ

ผู้กำกับฯ ซึ่งเป็นผู้เขียนบทเองก็คงมีความประสงค์จะพัฒนาตัวละครสองตัวนี้อยู่เหมือนกันแหละ แต่พอต้องตัดต่อและตัดทอนความยาวลง ก็เลยทำให้ตัวละครสองตัวนี้กลายเป็นส่วนเกินที่ตัดทิ้งไปได้ไม่เสียหายอะไร

ในส่วนของการออกแบบโปรดักชั่น สื่อความหมายและให้อรรถรสดีมาก ด้วยการเลือกใช้สี แสง และองค์ประกอบภาพ

อย่างเช่น ฉากโรงถ่ายในตอนที่ยังถ่ายหนังเงียบอยู่ หนังหลายเรื่องถ่ายกันกลางแจ้งแบบฉากอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กันเลย เพราะไม่ต้องกลัวเสียงกวนกัน แถมเครื่องมืออุปกรณ์เช่นกล้องถ่ายก็ต้องเช่าต้องยืมกัน เลยทำให้ต้องเสียเวลารอกัน และเอามาส่งให้อีกกองถ่ายในนาทีสุดท้ายก่อนแสงตะวันจะลับฟ้า เป็นต้น

ฉากที่เปลี่ยนการถ่ายทำมาเป็นหนังเสียงก็ทำให้เห็นความยากลำบากที่เรียกว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการ ถ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายเทคท่ามกลางความร้อนอบอ้าว เพราะเปิดแอร์ไม่ได้ เสียงแอร์จะดังรบกวนเข้าไมค์!! ถ่ายแล้วไม่รู้แล้วจนอารมณ์เสียระเบิดใส่กัน แถมตามมาด้วยความตายที่ไม่คาดฝันของทีมงานอีกต่างหาก!!!

ความตายถูกใช้แบบแทรกเข้ามาเป็นแก่นเรื่อง มีคนล้มตายไปดื้อๆ หลายครั้ง และเมื่อย้อนมาทบทวนดูว่าหนังพยายามจะพูดอะไรในเรื่องนี้ ก็ได้ความกระจ่างโดยเฉพาะจากบทสนทนาระหว่างดาราที่กำลังกลายเป็นดาวร่วง กับนักเขียนคอลัมน์ซุบซิบ ซึ่งชี้เป็นชี้ตายให้แก่ศิลปินในวงการ

เป็นบทสนทนาที่โดนใจและได้ใจไปเลยค่ะ

สรุปความเอาแต่เนื้อๆ คือความพยายามแสวงหาอมตภาพ

มนุษย์ที่เป็นรูปนามนั้นตายได้ แต่แคแร็กเตอร์ที่เขาแสดงในภาพยนตร์จะอยู่ยงคงกระพัน เพราะนานนับจากเขาตายไป เมื่อใดที่หนังของเขาถูกนำมาฉายให้แก่คนรุ่นหลังดู ตัวเขาก็กลับมามีชีวิตขึ้นใหม่

นี่เป็นความปรารถนาของแมนนี่ที่บอกไว้แต่ต้นเรื่องเหมือนกัน คือ เขาต้องการเข้าไปเป็นส่วนร่วมของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขา

เดเมียน ชาเซลล์ เป็นผู้กำกับฯ ที่ยังไม่หมดมุขเสียทีเดียวหรอก แม้จะไม่แหลมคมเท่า Whiplash และไม่หวานอมขมเหมือน La La Land แต่งานของเขาก็ยังน่าจับตาอยู่ดี

ตอนจบน่าจะเป็นตอนที่ได้ใจคนรักหนังส่วนมาก

เวลาผ่านไปหลายปี แมนนี่กลับมาพร้อมครอบครัว และเข้าไปนั่งดูหนังในโรง ภาพบนจอเป็นภาพปะติดปะต่อของอดีตที่เรืองรองและน่าจดจำในศิลปะของภาพที่เคลื่อนไหวมีชีวิตขึ้นในโลกมายา

เป็นประหนึ่งถ้อยคำสดุดีที่ร้อยเรียงคารวะแต่ศิลปะอันมีเสน่ห์ชวนพิศวงของภาพยนตร์ •

BABYLON

กำกับการแสดง

Damien Chazelle

แสดงนำ

Brad Pitt

Margot Robbie

Diego Calva

Jean Smart

Jovan Adepo

Li Jun Li

Tobey Maguire

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์