ภาพยนตร์ : SILVER SKATES ‘เทพนิยายฉบับรัสเซีย’ / นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

 

SILVER SKATES

‘เทพนิยายฉบับรัสเซีย’

 

ผู้สร้าง

Michael Lockshin

นำแสดง

Fedor Fedotov

Sonya Priss

Yuriy Borisov

Kirill Zaytsev

 

เรื่องราวความรักของหนุ่ม-สาวต่างชนชั้น ต่างสภาพเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองนี้ เกิดขึ้นในเมืองที่สวยงามที่สุดเมืองหนึ่งในโลก คือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในยุคหัวเลี้ยวหัวต่อของกาลสมัย

ศตวรรษที่ 19 กำลังก้าวล่วงเข้าสู่ศตวรรษที่ 20

แต่ก็ยังอีกเกือบสองทศวรรษกว่าที่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์รัสเซียจะมาถึง นั่นคือ การปฏิวัติรัสเซียใน ค.ศ.1917

แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสังคมรัสเซียจะส่อเค้าลางให้เห็นเป็นเงาๆ อยู่ในเรื่องราวความรักที่ไม่น่าจะเป็นไปได้และเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามที่ยากจะฝ่าฟันของหนุ่มน้อยผู้ยากไร้กับสาวงามผู้เฉิดฉายในตระกูลสูงและร่ำรวย

พูดแบบไทยๆ ก็คือ เรื่องราวความรักของดอกฟ้ากับหมาวัดนั่นแหละค่ะ

เห็นเค้าลางอิทธิพลของแรงบันดาลใจจากบทละครอมตะที่ครองใจคนทั้งโลกของวิลเลียม เช็กสเปียร์ ซึ่งผู้ประพันธ์นวนิยายต้นตอของภาพยนตร์เรื่องนี้มีความประทับใจอยู่ ที่เด่นชัดคือในฉากระเบียงห้องนอนของสาวเจ้าในคฤหาสน์อลังการ ที่หนุ่มน้อยปีนขึ้นไปผูกสมัครรักใคร่

ท้องเรื่องเกือบทั้งหมดเกิดในช่วงฤดูหนาวของปลาย ค.ศ.1899 ในยามที่เมืองทั้งเมืองกลายเป็นน้ำแข็งขาวโพลนไปหมด

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลบอลติก ว่ากันว่าที่ตั้งของเมืองนี้มีแม่น้ำลำคลองตัดผ่านด้วยความยาวถึง 300 กิโลเมตร ดังนั้น จึงมีสะพานข้ามลำน้ำอยู่ทั่วเมืองเป็นจำนวนราว 800 สะพาน

ในฤดูหนาว เส้นทางน้ำเหล่านี้จะแข็งตัวกลายเป็นเส้นทางสัญจรทางบกหมด ดังนั้น ในยุคที่ถนนหนทางยังต้องใช้รถม้าซึ่งอาจหนักเกินไปสำหรับผิวน้ำแข็ง ผู้คนจึงใช้สเก๊ตสัญจรกันทั่วไปหมด

 

พระเอกของเราชื่อ มัตเวย์ (เฟดอร์ เฟดอทอฟ) เป็นหนุ่มน้อยยากจน มีพ่อทำงานเป็นคนจุดตะเกียงตามถนนหนทางให้แสงสว่างแก่เมือง และมอบสเก๊ตทำด้วยเงินให้ลูกชายคนเดียวตั้งแต่ครั้งยังเด็ก และหัดให้ลูกเล่นสเก๊ตจนเชี่ยวชาญ

ของขวัญชิ้นนี้กลายเป็นเครื่องมือทำมาหาเลี้ยงชีพของมัตเวย์ต่อมา

มัตเวย์เป็น delivery boy อยู่ที่ร้านเบเกอรี่ใหญ่โตในนคร และถูกไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรมด้วยเหตุที่ไปส่งของล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากการจราจรปิดไม่ให้ผ่านไป

พ่อผู้แสนดีของเขาก็ป่วยกระเสาะกระแสะ และมัตเวย์จำต้องหาเงินมาช่วยภาระค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลพ่อ

ด้วยความสามารถในการใช้สเก๊ตอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว มัตเวย์ไปเจอกับแก๊งล้วงกระเป๋าภายใต้การนำของอเล็กซ์ (ยูรีย์ บอริซอฟ) ซึ่งมองเห็นความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมของสังคม จนหาข้ออ้างในการลักขโมยของพวกเขาว่าข้าวของที่พวกเขาขโมยนั้นไม่ได้เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชนชั้นสูง

อเล็กซ์เป็นส่วนผสมของความคิดแบบมาร์กซิสต์และโรบินฮู้ด วีรบุรุษในอุดมคติของคนยากไร้ ตัวละครตัวนี้เป็นเงาทะมึนที่ทอดลงมาให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของรัสเซียที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้าไม่นาน

 

ขณะเดียวกัน ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมอีกรูปแบบหนึ่งก็กำลังจะอุบัติขึ้น นั่นคือ สถานภาพของสตรี

นางเอกสาวน้อยแสนสวยของเรา อลิสา (ซอนยา พริสส์) เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลยิ่งในการบริหารและปกครอง

อลิสาเป็นสตรีสมัยใหม่หัวก้าวหน้า สนใจใฝ่รู้ในวิชาเคมี ซึ่งต้องแอบศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง เพราะพ่อไม่สนับสนุนให้ลูกสาวต้องไปทำงานอาชีพอะไร นอกจากได้แต่งงานไปกับผู้ชายที่คู่ควรเหมาะสม

การศึกษาที่เธอได้รับจึงเป็นเรื่องของภาษาต่างประเทศ โดยจ้างครูชาวต่างชาติมาสอนให้ ดูจากท้องเรื่องแล้วน่าจะเป็นครูชาวอังกฤษชื่อ มิสแจ๊กสัน (แคธี เบลตัน) แต่เนื่องจากเวอร์ชั่นที่ได้ดูเป็นเวอร์ชั่นที่พากย์เป็นภาษาอังกฤษ วิชาที่มิสแจ๊กสันสอนจึงเป็นภาษาฝรั่งเศส และก็ดูลงตัวดีสำหรับเรื่องราวที่จะพัฒนาต่อมา

อลิสาเป็นผู้บุกเบิกและเป็นตัวแทนของสตรีสมัยใหม่สำหรับความเคลื่อนไหวของสตรีนิยมในศตวรรษที่ 20

แต่เรื่องราวก็อยู่ที่การฝ่าฟันข้ามอุปสรรคทางสังคมทั้งหลายทั้งปวง

นอกจากพ่อของอลิสาผู้เป็นอนุรักษนิยมขนานแท้และดั้งเดิม ซึ่งเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของหนุ่ม-สาวแล้ว ผู้ร้ายของเรื่องคือขุนนางหนุ่ม อาร์คาดี (คิริลล์ ซายต์เซฟ) ซึ่งเป็นคู่หมายของอลิสา และมีความสามารถทางสเก๊ตขนาดแสดงอวดต่อหน้าผู้ลากมากดีได้

อาร์คาดีมุ่งร้ายหมายขวัญต่อขบวนการของโจรล้วงกระเป๋าและปราบปรามแบบเข่นฆ่าไร้ปรานี

 

โปรดักชั่น รวมทั้งงานออกแบบเครื่องแต่งกาย สวยงามเต็มตามากค่ะ ชวนให้นึกถึงความงดงามของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งหาที่ไหนทัดเทียมได้ยาก และคนทั่วไปไม่ค่อยได้เห็นในลักษณะนี้ เนื่องจากฤดูกาลท่องเที่ยวมักจะไม่ใช่ในฤดูหนาวแบบนี้

ในหนังเราจึงได้เห็นความสวยงามของน้ำที่จับตัวแข็งทั่วทั้งเมือง แปรสภาพแม่น้ำลำคลองให้กลายเป็นพื้นผิวให้สเก๊ตได้หมด

นอกจากนั้นยังมีลานสเก๊ตสวยงามที่จัดงานของชนชั้นสูง ซึ่งกลายเป็นสถานที่พบกันของพระเอกนางเอก

ด้วยความยาวสองชั่วโมงเศษ หนังไม่ได้ให้ความรู้สึกน่าเบื่อเลย ตรงข้ามเราจะคอยลุ้นเอาใจช่วยคู่รักฝ่าฟันขวากหนามไปจนตลอด

ขอแนะนำให้ชมค่ะ