“เมีย 2018” ความรัก ความขัดแย้ง และพลังขับเคลื่อนชีวิต

ยุคสมัยที่ผันแปร ทำให้ละครไทยต้องปรับตัว

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดก็คือ ตัวละครสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือนางเอก จะต้องมีอาชีพและการทำงานที่ชัดเจน ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่หลุดลอยมาจากโลกอื่น เหมือนที่เคยเป็นมาช้านาน

แต่สิ่งที่ทำให้ผมชื่นชมละครโทรทัศน์เรื่อง “เมีย 2018 รักเลือกได้” ก็คือรายละเอียดในชีวิตการทำมาหากินของตัวละครทั้งหลาย

ซึ่งมีแง่คิดดีๆ และความฉลาดลึกล้ำ

จุดหลักของเรื่อง ยังคงหนีไม่พ้นการชิงรักหักสวาทระหว่างอรุณา (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) เมียที่ซื่อสัตย์ดีงาม และกันยา (มารี เบิร์นเนอร์) น้องเมียสุดสวยเซ็กซี่ เพื่อแย่งชิง ธาดา (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) สามีรูปหล่อจอมเจ้าชู้

สูตรสำเร็จของละครน้ำเน่าแบบเดิมก็คือ “กันยา” ที่เป็นตัวร้ายและมุ่งหมายแย่งชิงพี่เขยไปจากพี่สาว ย่อมไม่สนใจการทำมาหากิน หรือหากมีหน้าที่การงาน ก็ทำไปเพื่อให้พอผ่านพ้นไปวันๆ เท่านั้น

ผมได้ประเมินน้องเมียคนนี้ในเชิงลบมาโดยตลอด

แต่ครั้นเมื่อเธอรู้สึกผิดหวังจากการสัมภาษณ์งาน และเดินออกมาพบกับสุชาติ (พีท ทองเจือ) เจ้านายใหญ่ของบริษัทนี้ เธอก็ได้แสดงถึงมุมมองเฉียบคมแบบคนรุ่นใหม่ให้กับคุณสุชาติได้รับรู้ โดยที่เธอก็ไม่รู้จักว่าเขาคือใคร หากทว่าบทสนทนานี้ได้กลายเป็นตัวแปรหนึ่งที่พลิกชีวิตให้เธอได้รับตำแหน่งงาน

“เขาบอกว่า กันยาไม่มีประสบการณ์ค่ะ แต่กันยาไม่สนหรอกนะคะ ถ้าที่นี่ต้องการแต่ประสบการณ์ กันยาก็ไม่เหมาะกับที่นี่หรอกค่ะ”

“ไม่เหมาะกับที่นี่ แล้วทำไมถึงไม่เหมาะกับที่นี่ล่ะ”

“กันยาว่า กันยาเป็นคนรุ่นใหม่ค่ะ ไม่ได้มีประสบการณ์จากที่ไหนนะคะ แต่กันยามั่นใจค่ะว่า กันยาทำงานนี้ได้ และอีกอย่างนะคะ พวกคนที่เขามีประสบการณ์มานี่ มันก็มีแค่ 2 แบบ แบบแรกก็คือ ทำงานไม่เก่ง เขาก็เลยโดนไล่ออก ส่วนแบบที่สองนี่นะคะคือ ทำงานเก่งมาก จนเราต้องขอร้องให้เขามาทำงานที่นี่ และถามหน่อยนะ ที่นี่มีแบบที่สองสักกี่คนล่ะคะ”

—ละครโทรทัศน์เรื่อง “เมีย 2018” ตอนที่ 5

เมื่อได้ฟังคำตอบเยี่ยงนี้ คุณสุชาติจึงหัวเราะเบาๆ และอาจจะแอบคิดว่า “บริษัทของเรามีคนเก่งแบบที่สองกี่คน” ในที่สุดเขาจึงไปกดดัน โน้มน้าว และหลอกล่อให้มุนินทร์ (พิชญ์นาฏ สาขากร) ซึ่งเป็นผู้บริหารคนหนึ่งในบริษัทนี้

จำเป็นต้องรับกันยาเข้าทำงาน

มุนินทร์ เป็นสาวสวย เผ็ดแซ่บ และทำงานเก่งคนหนึ่ง นอกจากนี้ เธอยังเป็นคู่แข่งของกันยาในชีวิตส่วนตัวอีกด้วย เพราะเธอก็ต้องการแย่งชิงธาดามาเป็นสามีของตนเองเช่นกัน

เธอจึงมีอคติและไม่ต้องการให้กันยาได้เข้ามาทำงานในบริษัทเดียวกัน

แต่ด้วยความสามารถในการเจรจา และอำนาจที่เหนือกว่าของคุณสุชาติ ก็ทำให้มุนินทร์ต้องจำใจรับกันยาเข้ามาอยู่ในทีมของตน

“นินทร์อึดอัดนะคะถ้าต้องถูกบังคับให้ได้คนที่นินทร์ไม่ได้เลือก” เธอรู้ดีในฝีมือการทำงานของตัวเอง ซึ่งเป็นที่ต้องการของหลายบริษัท จึงกล้าที่จะยืนกรานความเชื่อนี้ของเธอกับคนที่มีอำนาจเหนือกว่า

“แต่เด็กคนนี้น่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดีได้”

มุนินทร์จึงหันหน้ามามองค้อนให้กับสุชาติ 1 ครั้ง แต่เขาย่อมมีวิธีการรับมืออยู่แล้ว

“ถ้าเกิดธาดาเอ่ยปากอยากได้ผู้ช่วย แล้วเอาเด็กคนนี้ไป ทีมคุณลำบากนะ”

“นี่เป็นห่วงนินทร์ล้วนๆ ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับเด็กคนนี้ใช่มั้ยคะ”

“แนะ เสียงเหมือนหึงนะ”

สุชาติไม่ได้เก่งแค่เรื่องงาน แต่ยังมีลูกล่อลูกชนที่เหลือร้าย

“ไม่ใช่เรื่องนั้นแน่ๆ”

“ถ้าไม่ใช่เรื่องนั้นก็ดีแล้ว จะได้ตั้งใจทำงานไง นี่จะบอกให้นะ มีอาวุธอยู่ในมือเยอะๆ น่ะ ทีมคุณ Win แน่”

เราจะเห็นศิลปะการโน้มน้าวที่ไม่ธรรมดาของนายใหญ่อย่างสุชาติ

หากทว่าลูกน้องคนเก่งอย่างมุนินทร์ก็มีไหวพริบในการแก้ปัญหาของตัวเอง นั่นคือ ยินดีรับกันยาเข้าทำงาน แต่ให้เวลาเรียนรู้แค่ 1 สัปดาห์ หากว่าไม่เข้าตา ก็ต้องโดนจัดการออกไป

ตอนแรกกันยาก็ไม่อยากจะรับงานนี้ เพราะเห็นอยู่แล้วว่าจะต้องโดนกลั่นแกล้งอีกมากมาย แต่เมื่อพี่เขยสุดหล่อแสดงความปรารถนาที่จะให้เธอเข้ารับตำแหน่งนี้ เธอก็เปลี่ยนเป็นฮึดสู้ขึ้นมาโดยฉับพลัน

ความรักที่ร้อนแรงของเธอ เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด

“ถ้าเขาไม่รับ ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ย้ายมาทำงานกับทีมพี่ต่อได้”

“พี่ธาดาต้องการให้กันยาไปดูงานของทีมนู้นให้ใช่มั้ยคะ”

“พี่ว่าในตอนนี้มันก็ดีกับทุกฝ่ายไม่ใช่เหรอ”

กันยาอาจจะงมงายในความรัก แต่เธอไม่ใช่คนโง่เขลา จึงย่อมมองเห็นผลประโยชน์แอบแฝงที่พี่เขยจะได้รับจากการนำเสนอน้องเมียให้กับทีมงานฝ่ายตรงข้าม หากทว่าธาดาซึ่งมีตำแหน่งสำคัญในบริษัทก็ไม่ได้มีดีแค่เปลือก แต่ยังมีไหวพริบในการรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

ในด้านที่ดีงาม ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนให้กันยาเข้าทำงานในบริษัท โดยไม่หวั่นเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งจากมุนินทร์ แต่หากควบคุมไม่ดี ก็อาจจะกลายเป็นจุดบอดที่ทำลายเธอได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งเราจะได้เห็นในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกัน อรุณาที่ต้องสูญเสียธาดาสามีของเธอให้กับความรักที่คลั่งไคล้รุนแรงของน้องสาว ก็ย่อมประสบกับทุกขเวทนา ราวกับว่าชีวิตได้สูญเสียคุณค่าความหมายในการดำรงอยู่

หากทว่าการเข้ามาของวศิน (ธนภัทร กาวิละ) ก็จะค่อยๆ กระตุ้นและสร้างสรรค์พลังขับเคลื่อนให้เธอเดินหน้าต่อไป

วศินเป็นหนุ่มรูปงาม ฉลาดเฉลียว และร่ำรวย จึงย่อมมีตัวเลือกในชีวิตมากมาย แต่เขากลับมาหลงรักอรุณาแม่ม่ายลูกหนึ่ง ผัวทิ้ง และยังอายุมากกว่าอีกด้วย

เขาอยากจะใกล้ชิดเธอ จึงเสนองานในบริษัทให้กับเธอ แต่ดูเหมือนอรุณาจะรู้สึกได้ถึงท่าทีของเขา อีกทั้งยังไม่มั่นใจในตัวเองมากพอ จึงเป็นหน้าที่ของวศิน ซึ่งจะต้องใช้ไหวพริบและถ้อยคำดีๆ ในการดึงตัวเธอเข้ามาเป็นพนักงานให้ได้

“คุณวศินคะ คุณฟังฉันนะคะ คือว่าฉันเนี่ย แต่งงานมีสามีและก็ลูกแล้ว ถ้าเกิดว่าฉันไปทำงานนอกบ้าน แล้วใครจะดูแลบ้าน ทำกับข้าวกับปลา แต่ว่าก็ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่คุณเชื่อใจฉัน คิดว่าฉันจะทำได้”

“ผมแค่รู้สึกว่าคุณฉลาดเกินกว่าจะจมตัวเองอยู่ในครัว หรือว่าทำความสะอาดบ้านนะครับ ค่อยๆ คิดนะครับ ไม่ต้องรีบ ลองเอาข้อเสนอของผมกลับไปคิดดู”

หยุดเล็กน้อย พร้อมกับกล่าวคำท้าทาย เพื่อกระตุ้นให้เธอลุกขึ้นสู้อีกสักครั้ง

“ผมคิดว่าอายุอย่างคุณไม่น่ามีโอกาสแบบนี้เป็นครั้งที่สองนะครับ”

หลายครั้งในชีวิต เราพบว่า “ความรัก” เป็นตัวทำลายความสามารถในการทำงานของมนุษย์ แต่ในบางจังหวะ ความรักก็เป็นแรงบันดาลใจให้เรากล้าฟันฝ่าอุปสรรคทั้งมวล เพื่อไปสู่ความสำเร็จได้

ในตอนแรกอรุณาเหมือนจะไม่ยอมเปิดใจให้กับวศิน แต่เขาก็ยังเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้

บางทีสิ่งที่ทุ่มเทไป อาจจะกลายเป็นความสูญเปล่า หากทว่าเขาก็พร้อมที่จะเปิดใจกว้างและเป็นฝ่ายให้ก่อน โดยเฉพาะคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้อรุณาสามารถผ่านพ้นวันเวลาที่เลวร้ายไปได้

“คุณจะต้องดูดีมาก ถึงมากที่สุด ทุกคนจะต้องชื่นชมคุณ แทนที่จะมาติดใจว่า คุณมีปัญหาอะไรกับสามีคุณหรือเปล่า หรือถ้าเขารู้ไปบ้างแล้ว เขาก็จะทึ่งที่คุณสามารถดูแลตัวเองได้ดีขนาดนี้”

— ละครโทรทัศน์เรื่อง “เมีย 2018” ตอนที่ 15

อรุณาเหมือนได้รับชีวิตใหม่เมื่อเข้ามาทำงานกับวศิน บางทีอาจจะมีพลังใจยิ่งใหญ่ในการไขว่คว้าความสำเร็จ เหนือล้ำกว่าการทำงานในชีวิตช่วงแรก ซึ่งเธอได้สละละทิ้งไป เพื่อจะได้ปฏิบัติภารกิจของเมียและแม่ให้ดีที่สุด

“ความเอาใจใส่ มุมมองฉลาดๆ และถ้อยคำกระตุ้นท้าทาย” จากเจ้านายที่ชื่อวศิน ย่อมเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ แต่กระนั้นชีวิตที่สูญเสียความหมายจากการถูกสามีทอดทิ้ง ก็น่าจะเป็นปัจจัยเร่งเร้าชั้นดี ทำให้เธอต้องดิ้นรนพัฒนาตัวเองให้เปล่งประกาย เพื่อฟื้นฟูความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง

ความบันเทิงเริงรมย์ที่เราได้รับจากละครโทรทัศน์ “เมีย 2018 รักเลือกได้” จึงไม่ได้จำกัดขอบเขตอยู่ในมุมแคบๆ ของความรักและการแย่งชิงสามีคนอื่นเท่านั้น

หากทว่ายังสอดแทรกวิถีชีวิตการทำงานที่ต้องใช้สติปัญญาเข้าขับเคี่ยว ความฉลาดหลักแหลมในการเจรจาต่อรอง และความละเอียดอ่อนในการสร้างสรรค์บุคลิกของตัวละคร ทั้งหมดนี้ได้ถักทอเข้าด้วยกันอย่างละเมียด ทำให้โครงเรื่องแบบละครน้ำเน่ามีสีสันและรสชาติที่อร่อยลิ้น สอดคล้องไปกับจิตวิญญาณแห่งยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง

“ถ้าคุณจะเสียสละตัวเองเพื่อเอาพลังทั้งหมดมายื้อครอบครัวไว้ คุณก็จะต้องทำแบบนั้นไปจนตาย”

— ละครโทรทัศน์เรื่อง “เมีย 2018” ตอนที่ 9