ขอแสดงความนับถือ

หลังได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องลุ้นระทึกกันจนโค้งสุดท้าย

หลังจากนี้ต้องไปลุ้นกันต่อว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี

แน่นอน ถ้าเป็นชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

คงลุ้นหนักกว่า ด้วยเพราะคงเจอสกัดในทุกเรื่อง

ที่ไม่ควรเป็นเรื่อง

แต่ “นักร้อง” ก็สามารถทำให้เป็นเรื่องได้

 

ล่าสุด “นักร้อง” นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ให้ตรวจสอบว่า สมาชิกภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา สิ้นสุดลงตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(7) ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) หรือไม่

โดยอ้างว่า เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงที่สาธารณชนทราบกันโดยทั่วไปว่า นายพิธา ซึ่งเป็น ส.ส.มาตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2566

ได้ไปชมและลงไปในสนามแข่งขันและถ่ายรูปกับนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เมื่อคืนวันที่ 29 มิถุนายน 2566

และมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวทางสื่อต่างๆ

จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการนำการเมืองมาเกี่ยวข้องกับการกีฬา

กระทบกับภาพลักษณ์ของสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย

ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(7) ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) ประกอบข้อเท็จจริงที่ปรากฏโดยทั่วไป จึงมีเหตุที่ควรขอให้ กกต.ใช้ข้อเท็จจริงดังกล่าวมาดำเนินการตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่

เพื่อตรวจสอบว่า นายพิธามีการรับเงินหรือประโยชน์ใดๆ จากหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ในธุรกิจการงานปกติ

และ/หรือ มีกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซง การใช้สิทธิหรือเสรีภาพของหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนโดยมิชอบ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) หรือไม่

อันจะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายพิธา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลงตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(7) ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) (4) หรือไม่

อ่านแล้วชวนให้มึนหัว

แต่ก็ตอกย้ำถึงฤทธิ์เดชของ “นักร้อง” ในการเมืองไทย

ช่างหาเหตุ “ร้อง” ได้พิสดารพันลึกจริงๆ

 

 

ว่าแล้ว ชวนไปอ่านเรื่อง “นักร้อง” จริงๆ และสร้างสรรค์ดีกว่า

พลิกไปที่หน้า 60 อ่านบทความพิเศษ

“FIFTY FIFTY สี่เทพธิดาแห่งความรักดาวรุ่งแห่งวงการเค-ป๊อป”

ดาวรุ่งอย่างไร “ศรัณยู ตรีสุคนธ์” เรียบเรียงมาให้อ่าน

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

นอกจากจะเป็นกลุ่มนักร้องดังแล้ว

พวกเธอยังโด่งดัง ในฐานะนักร้อง (เรียน) ด้วย

แต่มิได้ ร้องเรียน เพื่อไปสกัดใคร

หากแต่เพื่อความเป็นธรรมของพวกเธอ

ทั้ง 4 สาวได้ยื่นฟ้องต้นสังกัด ATTRAKT เพื่อขอระงับสัญญาที่ได้เซ็นไว้

สาเหตุมาจากการที่ต้นสังกัดละเมิดเงื่อนไขสัญญาสำคัญหลายข้อ

โดยเฉพาะในเรื่องบัญชีที่ไม่โปร่งใส

แต่ถึงจะอย่างไรก็ตาม แฟนๆ ก็เชื่อว่าทางวงจะหาทางออกที่ลงตัวได้

และจะผลิตผลงานที่ดียิ่งกว่าเดิมออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามต่อไปแน่นอน

พวกเธอมีดีอย่างไรโปรดพลิกอ่านโดยพลัน

 

นอกจากจะได้สัมผัส “นักร้อง” ดีๆ และร้องเพลงจริงๆ แล้ว

“ศรัณยู ตรีสุคนธ์” ให้ข้อมูลในบทความพิเศษอย่างน่าสนใจ ว่า ในเวลานี้เค-ป๊อปเป็นมากกว่าอุตสาหกรรมดนตรี

แต่คือแหล่งเงินทุนจำนวนมหาศาลที่นำเม็ดเงินเข้าประเทศ

ทำให้เศรษฐกิจของเกาหลีใต้เติบโตอย่างรวดเร็ว

อุตสาหกรรมเค-ป๊อปในปี 2022 โตมากกว่าปี 2021 ถึง 31.7 เปอร์เซ็นต์

รายได้ทั้งจากการทัวร์คอนเสิร์ตและการขายสินค้าในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นจากปี 2021 ถึง 26.2 เปอร์เซ็นต์

คอนเทนต์เกี่ยวกับศิลปินเค-ป๊อปตามสื่อออนไลน์ที่ให้บริการแบบเก็บเงินรายเดือนเพิ่มจากเดิม 7.50 ดอลลาร์สหรัฐมาเป็น 11 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอีก

ทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกนับเฉพาะศิลปินกลุ่ม 8 วงอย่าง BLACKPINK, Stray Kids, SEVENTEEN, ENHYPEN, TXT, TREASURE, ATEEZ และ TWICE

สร้างรายได้เป็นจำนวนมหาศาลมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 1 หมื่นสี่พันสองร้อยล้านบาท

ปัจจุบันมีศิลปินเกาหลีทั้งที่เป็นศิลปินเดี่ยวและศิลปินกลุ่มที่แอ็กทีฟหรือปล่อยผลงานอยู่ในวงการเพลงเค-ป๊อปราวๆ 115 วง

ถ้าหากนำเม็ดเงินจากศิลปินทั้งหมดมารวมกันจริงๆ

คงไม่ผิดนักที่จะบอกว่าในเวลานี้เค-ป๊อปคืออุตสาหกรรมดนตรีที่ทำเงินสูงที่สุดในโลกแล้ว

 

นี่คือ บทบาทอันสร้างสรรค์ของ “นักร้อง” เค-ป๊อป

สร้างผลประโยชน์มหาศาลให้ประเทศชาติ

ซึ่งเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

และไม่ควรเอาไปเทียบกับ “นักร้อง (เรียน) ไทย-ไทย” ด้วยประการทั้งปวง

เพราะทั้งไม่สร้างสรรค์แล้ว

คนจำนวนยังวิพากษ์ว่า ทำลาย “ประชาธิปไตย” ด้วย!?! •