จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 29 ม.ค. – 4 ก.พ. 2564

จดหมาย

 

 หมอ-ส.ส.

ขอส่งบทกลอนเพื่อเป็นกำลังใจคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์

ที่กำลังทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำ

เพื่อรักษาคนไข้จากการอาละวาดของไวรัสโควิด-19 จนเหน็ดเหนื่อย

แม้กระนั้นยังมี ส.ส.และนักการเมืองบางคน

คอยพูดจาเหน็บแนมแกมเย้ยหยัน

บั่นทอนจิตใจของเขาอยู่เนืองๆ

ทั้งๆ ที่ประเทศเรากำลังเกิดวิกฤต ถูกโควิด-19 เข้าครองเมือง

น่าจะร่วมมือร่วมใจช่วยกันแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเสียก่อน

เรื่องด่าโจมตีรัฐบาลนั้น จะอภิปรายเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะยังมีเวลาอีกยาวไกล

ไม่รู้ว่านักการเมืองและ ส.ส.เหล่านั้นต้องการอะไร

หรือกลัวจะอกแตกที่ไม่ได้ด่าในสภาเพราะสภาปิดสมัยประชุม

 

     หมอ(ผู้ชนะ)

 

เธอเหน็ดเหนื่อยมามากอยากพักผ่อน

แต่ก็นอนมิได้ใจเป็นห่วง

ด้วยโควิด-19 ทำเจ็บช้ำทรวง

ใจทุกดวงหมอเยี่ยมเปี่ยมเมตตา

 

เธอรักษาทุกคนไร้ชนชั้น

เธอสร้างขวัญกำลังใจให้สูงค่า

เธอมากด้วยคุณธรรมล้ำศรัทธา

ทั่วโลกพากันยกย่องหมอของไทย

 

เธอรักษาคนไข้ให้อยู่รอด

เธอเป็นยอดนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่

เธอสุ่มเสี่ยงโรคโควิดมากพิษภัย

แต่หัวใจเธอฉกาจไร้หวาดกลัว

 

กำลังใจให้คุณหมออย่าท้อถอย

จงอย่าปล่อยโรคร้ายกระจายทั่ว

ต้องกำจัดมันไปห่างไกลตัว

เพื่อครอบครัวเขาอยู่รอดและปลอดภัย

 

ส.ส.พูดพล่อยพล่อยอร่อยปาก

พูดจาถากถางเย้ยหยันอย่าหวั่นไหว

จงหนักแน่นรวมพลังความตั้งใจ

เข้มแข็งไว้แล้วหมอจะชนะเอย

ทวีสิทธิ์ ประคองศิลป์

 

การเสียสละของหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์

เห็นด้วยกับ “ทวีสิทธิ์ ประคองศิลป์”

ที่ต้องยกย่อง

และคนไทยก็เทใจเช่นนั้นมาตลอด

กระนั้น คงต้องให้ความเป็นธรรมกับ ส.ส.ในฐานะตัวแทนของเราด้วยสักนิด

ที่ผ่านมา ส.ส.ก็รู้สึกเหมือนเรา

คือยกย่องหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์

ที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากคือ ผู้กุมนโยบายมากกว่า

และว่าที่จริงก็ควรวิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบได้

โดยเฉพาะนโยบายที่สร้างผลกระทบกับชาวบ้าน

ซึ่งเราโดนกระทบกันถ้วนหน้า

จึงควรมี ส.ส.(ดี-ดี) ส่งเสียงเตือนให้คนที่เกี่ยวข้องรับทราบ-รับฟัง

ว่าสิ่งที่สั่ง บังคับ ขอความร่วมมือ มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

ไม่ควรให้ใครใช้ข้ออ้างเรื่องโควิด-19 มา “ครอบจักรวาล”

ไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์ตนเอง

 

ของดีมีอยู่

เมื่อเราเติบโตมีอายุมากขึ้น

สิ่งหนึ่งที่มักจะมากระทบใจเราให้เศร้าหมองอยู่เป็นระยะๆ

คือความเจ็บไข้ได้ป่วยและการจากไปของคนในครอบครัวและญาติพี่น้อง

แม้จะรู้ว่ามันเป็นธรรมชาติ เป็นวัฏสงสารแห่งชีวิต เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครจะช่วยเหลือใครได้

ทว่าเมื่อเราต้องมาประสบพบเจอเรื่องราวการสูญเสีย ต้องพลัดพรากจากกันก็ใจหาย-เสียดายวันเวลาที่หมดสิ้นหายจากกันไป

…เป็นโศกา-อาลัย, เป็นความเศร้าหมองเสียใจที่ทุกครอบครัวต้องประสบพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คงเหลือไว้แต่ความทรงจำจากปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อกันมาด้วยเยื่อใยผูกพันของความเป็นเพื่อน เป็นครู เป็นลูกศิษย์ ซึ่งดลใจให้เราคิดคำนึงถึงกันอยู่…

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของท่านฐากูร บุนปาน

 

โปรดอย่าได้กังวล            ด้วยผองชนใฝ่เรียนรู้

ใน “ของดีมีอยู่”                จาก “ครูฐากูร บุนปาน”

จักต่อยอด-สืบสาน           ปณิธานการดำรง

คง “ของดีมีอยู่”              คู่บ้านคู่เมืองนิจนิรันดร ฯ

 

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

 

ขอบคุณครับ