เผยแพร่ |
---|
การดูด นายสกลธี ภัททิยกุล คือ ก้าวย่างสำคัญก้าวย่าง 1 จากจังหวะใหญ่ของ “พรรคคสช.“
อาจสร้างความหงุดหงิดให้กับ”พรรคประชาธิปัตย์”
แต่ก็มีความจำเป็นเพราะ “ยุทธภูมิ”ที่ล่อแหลมเป็นอย่างสูง 1 คือ ยุทธภูมิในกทม.
สะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจต่อ”พรรคประชาธิปัตย์”
สะท้อนให้เห็นว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญงาม ไม่น่าจะเลือกลงกับพรรคประชาธิปัตย์ หากแต่น่าจะเป็น “พรรคคสช.“มากกว่า
กลยุทธ์อย่างนี้ไม่น่าจะมาจาก “ทหาร”
กลยุทธ์อย่างนี้ยิ่งไม่น่าจะมาจาก “พลเรือน”ที่แวดล้อมอยู่กับคสช.ภายในทำเนียบรัฐบาล
หากแต่น่าจะส่งตรงมาจาก”เกาะสมุย“
คนมักจะมอง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างประมาทเพราะเห็นว่าพร้อยไปด้วย”รอยแผล”ในทางการเมือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จาก ส.ป.ก.4-01
แต่หากเกาะติดเส้นทางของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็จะประจักษ์ว่าเขาเคยเป็นเลขานุการ นายชวน หลีกภัย ที่กระทรวงพาณิชย์
เขามีบทบาทสำคัญในการสู้กับกลุ่ม นายเฉลิมพันธุ์ ศรีวิกรม์ และนายวีระ มุสิกพงศ์
จน 2 คนนี้ต้องระเห็จออกไปจัดตั้ง”พรรคประชาชน”
ยิ่งกว่านั้น บทบาทในการประสาน 10 ทิศทั้ง “ซ้าย” ทั้ง”ขวา” ทั้ง “หน้า”และ”หลัง”ภาจใต้คำขวัญ”มวลมหาประชาชน” ต้องยอมรับว่าเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่
ยิ่งใหญ่กว่าเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ยิ่งใหญ่กว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
ในทาง”การเมือง” เท่ากับยืนยัน”สมองกอ้นโต”
จังหวะก้าวนี้ของ“พรรคคสช.“เหมือนกับจะเป็นการหักหาญและก่อความไม่พอใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์
แต่เท่ากับเป็นการยอมรับ “ความจริง”
ความจริงที่ว่าในพื้นที่กทม.ลำพังพรรคประชาธิปัตย์หากต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยก็เหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง
นี่ยังมี”พรรคอนาคตใหม่”เผยแสดงออกมาอีก
“พรรคคสช.“จึงจำเป็นต้องปรับทัพ เสริมทีมและสร้างความแข็งแกร่ง