เผยแพร่ |
---|
ความอื้อฉาวอันเนื่องแต่”โรคพิษสุนัขบ้า” เมื่อประสานเข้ากับความอื้อฉาวจากการทุจริตเงิน”คนจน” และการทุจริตในกระทรวง ศึกษาธิการ
ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ “ใหม่”
เป็นปรากฏการณ์อันสวนทางอย่างสิ้นเชิงกับคำประกาศที่จะเข้ามา “ปราบโกง” ของคสช.
กึกก้องมาตั้งแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
แม้กระทั่งการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อย่างเปล่งประกาศอย่างชัดถ้อยชัดคำว่าเป็น รัฐธรรมนูญ “ปราบโกง”
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นปรากฏการณ์ว่าการโกงมิได้มาแต่ “นักการเมือง” หากแต่ยังมาจาก “ข้าราชการ”
ตรงนี้ต่างหากที่มากด้วยความอ่อนไหว
กระแสขุดคุ้ย โจมตี ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นสาดเข้าใส่ “นักการเมือง” เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ
ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
โดยมีคนมือสะอาดมากหลายจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเล่นบทนำ
ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
โดยมีคนใสซื่อ มือสะอาดระดับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.เล่นบทนำ
ต่อมา “คสช.” ก็ขานรับและลงมือปฏิบัติ
กระบวนการบริหารก็คือ การลดบทบาท”นักการเมือง”และขยายบทบาทของ “ข้าราชการ” เข้าไปตั้งแต่ระดับชาติลงไปถึงระดับท้องถิ่น
ผลก็เห็นอย่างที่อึกทึกในเรื่อง”สุนัขบ้า” ตามมาด้วย”เงินคนจน” รวมถึง เม็ดเงินทางด้าน”การศึกษา”
กลายเป็นประกายไฟ ไหม้ลามไปทั่วประเทศ
เรื่องของคนจนสัมพันธ์กับกระทรวงพัฒนาสังคม เรื่องของการศึกษาสัมพันธ์กับกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องสุนัขบ้าสัมพันธ์กับท้องถิ่น
ทุกอย่างล้วนดาเนินไปในแบบ “น้ำลงตอผุด”
สถานการณ์น้ำลงจะยิ่งมีความเด่นชัดหากเข้าสู่กระบวนการของ “การเลือกตั้ง”
ชาวบ้านจะยิ่งเห็น”ตอ”ขนาดใหญ่ระดับอภิมหาโครงการ