สถานะทางการเมืองของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กำลังอยู่ในแพร่งสำคัญของชีวิตในทางการเมือง

ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีในวันที่ 31 มิถุนายน จะเป็นคำตอบสุดท้าย

กระนั้น หากมองจากแต่ละกระบวนการแห่งการตัดสินใจทางการเมืองก่อนการลาออก ก่อนการลงสมัครเข้าสู่ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีก็พอจะมีสัญญาณ

เป็นสัญญาณอันเหมือนกับเป็นเครื่องเตือนและให้คำตอบได้ในแต่ละจังหวะก้าวเป็นอย่างดีว่าจะดำเนินไปอย่างไร

จะเป็นความสำเร็จ จะเป็นชัยชนะ หรือว่าเป็นความล้มเหลว หรือว่าจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ อันเป็นสภาพที่อยู่เหนือความต้องการและความคาดหมาย

ต้องยอมรับว่าแต่ละจังหวะก้าวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูป กระจ่าง อยู่ในกระแสแห่งการต่อสู้อันแหลมคมทางการเมืองที่มิได้มีแต่เพียงพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย หากแต่มีพรรคก้าวไกล

ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นั้นเองคือคำถามและต้องการคำตอบ

 

นับแต่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ตัดสินใจเข้าสู่สนามการ เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเมื่อ 3 ปีก่อน เขาก็ผาดโผนอยู่ในกระแสแห่งความขัดแย้งและต่อสู้

เหมือนกับรากฐานแรกสุดจะผูกติดอยู่กับพรรคเพื่อไทย แต่ต่อมากลับมีข่าวว่าสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทย

ขณะเดียวกัน ก็มีการเคลื่อนร่วมกับพรรคก้าวไกลเป็นการเคลื่อนร่วมไม่เพียงแต่ได้รับเชิญไปในบางเวทีของการแสดงความเห็น หากลึกซึ้งถึงขนาดคนในครอบครัวเข้าไปเป็นแคนดิเดตบางตำแหน่งในทางการเมือง

สายสัมพันธ์นี้เองทำให้เกิดความแคลงใจจากพรรคเพื่อไทย และมิได้แปลกหากพรรคเพื่อไทยจะต่อสายไปยังคนของตนซึ่งเคย อยู่ในพรรคภูมิใจไทยให้หวนกลับมา

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ก็สะบั้นกับพรรคก้าว ไกลและตัดสินใจลงสมัครด้วยตนเองเพื่อพิสูจน์ความนิยม

 

กรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง จึงเป็นกรณีศึกษาของนักการเมืองรุ่นเก่า วิถีแห่งการร่วมและตีจากอย่างเลือดเย็น

ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคก้าวไกล

ในอดีตความโลดโผนเช่นนี้อาจได้รับการยกย่องไม่ว่าจะอยู่ในพรรคชาติไทย ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคกิจสังคม ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์

แต่หลังจากมีพรรคอนาคตใหม่ แต่หลังจากมีพรรคก้าวไกล ความโลดโผนในลักษณะนี้ก็กลายเป็นคำถามอันร้อนแรง