E-DUANG : อ่าน พัฒนาการ ของ “สื่อ” ผ่าน ปรากฏการณ์  “เดี่ยว”

ไม่มีรูปธรรมใดที่สะท้อนให้เห็นถึงการแพร่กระจายและขยายตัวแห่งอิทธิพลอันมาจากการปรากฏขึ้นและดำรงอยู่ของ”สื่อ”ใหม่เท่ากับผลสะเทือนเนื่องแต่”เดี่ยว”อีกแล้ว

ไม่ว่าเก่าเก็บระดับ ”ลุงเฉลิมชัย” ไม่ว่าเก่าเก็บระดับ ”ป้าปารีณา” ก็ออกมายอมรับ

แม้ว่าจะไม่เห็นด้วย แม้ว่าจะหงุดหงิด ไม่พอใจ

ภายในความหงุดหงิดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะลำเลิก”บุญคุณ”อันตนได้สร้างและวางเอาไว้ในฐานะ”รุ่นก่อน”

ภายในความไม่พอใจก็มีความต้องการจะสกัด ขัดขวาง

หากเป็นอดีต”นายตำรวจ”ที่ชมชอบในกระบวนการ”วิสามัญ” ก็อาจจะเสนอรูปแบบที่รุนแรง หากเป็นอดีต”นักการเมือง” ก็อาจจะเสนอและใช้รูปแบบแห่ง”นิติสงคราม”

ความหวั่นไหว หวาดวิตก มิได้อยู่ที่”เดี่ยว”เท่านั้น ยิ่งเมื่อเห็น กระบวนการนำเสนอของ”กรรมกรข่าว นอกจอ” ยิ่งมองเห็นอย่างเด่นชัดถึงการรุกคืบเข้ามายึดครองในทางความคิด

การดำรงอยู่ระหว่าง”เดี่ยว” กับ”กรรมกรข่าว นอกจอ”ก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งอยู่แล้ว

เมื่อใดที่ 2 ส่วนนี้เกิด”ประสาน”กันขึ้นก็ระเบิดเถิดเทิง

 

ที่ปราชญ์ในทางประวัติศาสตร์ให้ความหลงใหลต่อธรรมชาติและ การดำรงอยู่ของ”นาฬิกา”นั้นสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับทั้งในความเป็นอนิจจังและพัฒนาการอย่างชัดเจน

แม้ในที่สุดแล้วเหมือนกับนาฬิกาจะเดินเป็นวงกลมไปบนหน้าปัทม์ แต่ทุกการเคลื่อนไหวคือการเปลี่ยนแปลง

ความชมชอบ”นาฬิกา”ของปราชญ์จึงต่างจาก”ทหาร”

ทหารบางคนเล่น”นาฬิกา”เพราะหลงใหลในอดีต มีความสุขกับของกำนัลและราคาอันได้มาจากการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในลักษณะอันเป็นอามิส บรรณาการ

แต่”นักประวัติศาสตร์”ยกย่อง”นาฬิกา”ในสถานะที่เป็นเครื่องหมายแห่งการเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลง อันดำรงอยู่อย่างเป็นนิรันดร์

กรณีของ”เดี่ยว” เมื่อประสานเข้ากับกรณีของ”กรรมกรข่าว นอกจอ”จึงยากที่พลังใดจะหยุดยั้งไว้ได้

 

ภายในปรากฏการณ์แห่ง”เดี่ยว”จึงไม่เพียงแต่ยืนยันรากฐานในทาง”ความคิด” หากแต่มีความต่อเนื่องไปสู่”การเมือง”

แต่ละ”ปฏิกิริยา” จึงดำรงอยู่อย่างเป็น”คำตอบ”

คำตอบแห่งการเคลื่อนไหว คำตอบแห่งการเปลี่ยนแปลง และภายในกระบวนการนี้ย่อมปรากฏคนและกลุ่มคนที่ไม่อยาก เห็นและไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าจะมองผ่านกระบวนการ”เดี่ยว” ไม่ว่าจะมองผ่านกระ บวนการ”กรรมกรข่าว นอกจอ”