E-DUANG : การมา ของ จักรภพ เพ็ญแข ผลสะเทือน ทักษิณ ชินวัตร

ภาพของ นายจักรภพ เพ็ญแข หากตัดห้วงที่เข้าร่วมกับ”นปก.”ร่วมกับ นายสมัคร สุนทรเวช ออกไปก็ต้องยอมรับว่าเป็นภาพที่สดใส ไพจิตร

ไม่เพียงแต่จากพื้นฐานครอบครัวที่เป็นทหาร ไม่เพียงแต่พื้น ฐานการศึกษา ไม่เพียงแต่พื้นฐานการรับราชการ

ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องตกเป็น”เป้า”ในการไล่ล่า”ทำลาย”ล้าง

ความผิดโดยพื้นฐานของ นายจักรภพ เพ็ญแข อยู่ที่เขาเลือก จะยืนอยู่ข้างเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร เลือกอยู่ข้างเดียวกับ นายสมัคร สุนทรเวช

เลือกอยู่เวทีเดียวกับ นายวีระ มุสิกพงศ์ กับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กับ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กับ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ไม่ว่าจะในรายการ”ความจริงวันนี้”

และเมื่อได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช เขาก็กลายเป็นคนเลวร้ายขึ้นมาอย่างฉับพลันทันใด

คำบรรยายภาษาอังกฤษของ นายจักรภพ เพ็ญแข ต่อสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทยก็กลายเป็น”ทัศนคติอันตราย”

การทำลายล้างจึงก่อรูปขึ้นอย่างเป็น”ขบวนการ”

 

หากย้อนกลับไปในยุคที่ นายจักรภพ เพ็ญแข ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงบทบาทสูงยิ่งในการปรับโฉมสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเป็น NBT

ก็จะสัมผัสได้ในการสนธิกำลังทั้งในรัฐสภาและในท้องถนนเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ไม่ว่าในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าในวุฒิสภา

เห็นในบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าใจในบทบาทของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และตระหนักว่าเหตุใดจึงปรากฏผลงานของ”นักแปล”จากสามย่านเข้ามา

นักแปลจากสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมส่วนอย่างสำคัญทำให้”ทัศนคติอันตราย”แพร่กระจายออกไปด้วย ความร่วมมือจากคนในกองทัพ

นี่คือความต่อเนื่องจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 มายังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

 

การมาของ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 การมาของ นายจักรภพ เพ็ญแข ในเดือนมีนาคม 2567 สำคัญ

สำคัญต่อรัฐบาล สำคัญต่อพรรคเพื่อไทย

อย่างน้อยก็จะนำไปสู่การทบทวนอดีต ไม่ว่าหลังรัฐประหาร เดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 แล้วย้อนดูความเป็นจริงที่เห็นและเป็นอยู่

การมาของ นายทักษิณ ชินวัตร คือการทดสอบ การมาของ นายจักรภพ เพ็ญแข คือการทดสอบ