เผยแพร่ |
---|
กระแสความเรียกร้องต้องการต่อโครงการ”ดิจิทัล วอลเล็ต”กำลังกลายเป็นมาตรวัดในทางการเมืองได้อย่างแหลมคม
เป็นความแหลมคมภายในความเฉยเมย ชืดชา
ทั้งๆที่เป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่ในระดับ 10,000 บาท ทั้งๆที่ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นนโยบาย”เรือธง”ของรัฐบาลอันมาจากพรรคเพื่อไทย
หากมองจากรากฐานพรรคเพื่อไทยซึ่งต่อเนื่องจากพรรคพลัง ประชาชน พรรคไทยรักไทย ซึ่งมีผลงานและความสำเร็จอย่างไม่ ขาดสาย ย่อมเกิดความประหลาดใจ
ไม่น่าเชื่อว่านโยบาย”ดิจิทัล วอลเล็ต”จะขาดความเร้าใจในระดับอันน่าเป็นห่วงได้ในระดับนี้
นี่น่าจะเป็นคำถามที่พรรคเพื่อไทยจะต้องขบคิดหาคำตอบ
ในเมื่อโดยพื้นฐานแล้วการได้เงินในระดับ 10,000 บาทจาก รัฐบาลถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ ไม่เคยปรากฏในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พรรคเพื่อไทยเองก็ต้องการอย่างยิ่งที่จะขับเคลื่อนโครงการนี้ให้เกิดขึ้นจริงให้จงได้
แต่จนแล้วจนรอด”ดิจิทัล วอลเล็ต”ก็ยังไม่ได้เริ่มต้น
คล้ายกับว่าแรงต้านอย่างหนักหน่วงจะมาจากท่าทีของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทของ นส.ศิริกัญญา ตันสกุล
ถามพรรคเพื่อไทยว่าเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริงละหรือ
ในเมื่อบทสรุปหนึ่งที่ออกมาจากภายในรัฐบาล ภายในพรรค เพื่อไทยก็คือ ถูกคนดัก”ตีหัว”ไม่ยอมให้โครงการ”ดิจิทัล วอลเล็ต”บังเกิดขึ้นในทางเป็นจริง
แม้จะไม่มีการระบุว่าเป็นการดักตีหัวโดยผู้ใด กลุ่มใด
กระนั้น หากดูจากการเคลื่อนไหวในการต่อต้านจาก 100 เทคโนแครตและปัญญาชนนักวิชาการก็จะสัมผัสได้ ยิ่งมองไปยังความเห็นต่างจากภายในของรัฐบาลยิ่งเห็นชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ยิ่งข้อแนะนำจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ยิ่งเป็นที่กระจ่าง
ความหวาดเสียวหนึ่งซึ่งถุกตอกย้ำอย่างต่อเนื่องก็คือ เกรงว่าโครงการ”ดิจิทัล วอลเล็ต”จะเป็นเหมือนโครงการ”จำนำข้าว”
ภาพของ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ลอยเด่นขึ้นมาโดยพลัน
เสียงเรียกร้องเงิน 10,000 บาทจึงค่อยเงียบหายไป การเคลื่อนไหวจากรัฐบาลและจากพรรคเพื่อไทยจึงแทบมิได้โฟกัสไปยังโครงการ”ดิจิทัล วอลเล็ต”
แม้กระทั่งในวงสนทนาบนโต๊ะอาหารที่เชียงใหม่ก็มองข้าม
กรณี”ดิจิทัล วอลเล็ต”ไปอย่างเจตนา