E-DUANG : หลักสัจจัง เว อมตา วาจา กับ เส้นทาง ประชาธิปัตย์

สภาพที่พรรคประชาธิปัตย์ประสบ อาจก่อให้เกิดความรู้สึกหลากหลายตามมาท้งในทาง”ความคิด” และในทาง”การเมือง”โดยเบื้องต้นอาจเป็นอุทาน “เป็นไปได้อย่างไร”

นั่นก็คือ เป็นไปได้อย่างไรที่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่ง”เคย”ดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในทาง”ความคิด” กระทั่งได้รับยกย่องให้เป็น”สถาบัน”จะปั่นป่วนรวนเร ตกต่ำถึงระดับนี้

รูปธรรมที่เห็นและเป็นอยู่มีความเด่นชัดผ่านการปฏิเสธบท บาทและความหมายที่มีอยู่ของ”อดีต”หัวหน้าพรรค

ต้องยอมรับว่าคนอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีเกียรติภูมิ ต้องยอมรับว่าคนอย่าง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน มีเกียรติภูมิ ยิ่งคนอย่าง นายชวน หลีกภัย ก็อยู่ในระดับ”เทพเจ้า”

ความเชื่อที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ส่ง”เสาไฟฟ้า”ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ก็ได้รับเลือก มาจากสถานะแห่ง”เทพเจ้า” ของ นายชวน หลีกภัย

แต่แล้วเมื่อผ่านการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 เมื่อผ่านรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 สถานะพรรคประชาธิปัตย์ยิ่งเสื่อมทรุดไม่ดำรงอยู่ในฐานะ”นำ”อีกต่อไป

ยิ่งเมื่อรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ยิ่งหนักหนาสาหัส

 

คำตอบมาจาก 1 พรรคประชาธิปัตย์มิได้ยึดอยู่กับแนวทางประชาธิปไตยอย่างที่เคยยึดมั่น โดยพื้นฐานที่สุดก็คือประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา

แต่หันเหเข้าไปอยู่ในด้านอันเป็นตรงกันข้ามกับแนวทางประชาธิปไตย ยอมทอดตนเป็น”ลูกแหล่งตีนมือ”

นั่นก็เห็นได้จากคำครหาที่ว่ารัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการจัดตั้งขึ้นใน”ค่ายทหาร” นั่นก็เห็นได้จากได้มีส่วนในการปราบปรามประชาชนในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

ขณะเดียวกัน คำตอบ 1 อันมาพร้อมกับการแสดงตนเป็น”หางเครื่อง”ให้กับฝ่ายที่มิได้เป็นประชาธิปไตย จุดอันตรายอย่างยิ่งของพรรคประชาธิปัตย์คือการไม่รักษาคำพูด

บทบาทของพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนว่าฝืนต่อแนวทาง “สัจจัง เว อมตา วาจา”ที่ประกาศตั้งแต่เมษายน 2489

 

พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง นักการเมืองคนหนึ่ง สามารถประกาศ แนวทางผ่านถ้อยคำหรูหราอย่างไรก็ได้ แต่จำเป็นต้องยึดมั่นในวาจาอันตนเคยประกาศ

หากไม่ยึดมั่นชะตากรรมก็จะเป็นอย่าง”ประชาธิปัตย”

ไม่ว่าจะเป็นคนอย่าง นายชวน หลีกภัย ไม่ว่าจะเป็นคนอย่าง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ไม่ว่าจะเป็นคนอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงล้วนต้องรับผิดชอบ

เมื่อรับผิดชอบต่อความรุ่งโรจน์ของพรรค ก็ต้องรับผิดชอบต่อความร่วงโรยของพรรค

เมื่อท่าน”พูด” คนจะฟัง เมื่อท่านลงมือ”ทำ”คนจะเชื่อ