ปรากฏการณ์ที่ นายชัยธวัช ตุลาธน สามารถรอดพ้นจากเสียงเรียกร้องให้ต้องร้องเพลงจากรายการ”เรื่องเล่าเช้านี้”ของ สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา กำลังเป็นเรื่องน่าทึ่ง

หลายคนที่เคยไม่เห็นด้วยกับบทสรุปของ “อาจารย์ลอย”ที่ว่า นายชัยธวัช ตุลาธน คือ “จูกัดเหลียง” หรือ”ขงเบ้ง”เริ่มมองเห็น”ราศี”ของขงเบ้งฉายจับอร่ามเรืองขึ้นมา

หากมองอย่างเปรียบเทียบกับกรณีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือกับกรณีของ  จาตุรนต์ ฉายแสง หรือกับกรณีของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อาจเห็นในความแตกต่าง

แตกต่างตรงที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เตรียมกีร์ต้าคู่ใจไปจากบ้าน แตกต่างตรงที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง เคยอัดเทปด้วยการร้องเพลงเป็นส.ค.ส.มาแล้ว

ยิ่งกรณีของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ยิ่งมิได้เป็นของแปลกเพราะว่าการร้องเพลงเป็นกิจวัตรหนึ่งนอกเหนือจากการปราศรัย

และทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนใส่เสื้อแดง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จึงแทบมิได้บ่ายเบี่ยง

ตรงกันข้าม นายชัยธวัช ตุลาธน กลับมากด้วยวิทยายุทธ์

 

หากใครเป็นแฟนรายการ”อาจารย์ลอย”อาจรู้ว่าการได้รับยกย่อง เสมอเป็น”จูกัดเหลียง”แห่งพรรคก้าวไกลของ นายชัยธวัช ตุลาธน นั้นมิได้เป็นเรื่องบังเอิญ

หาก “อาจารย์ลอย” ติดตามตั้งแต่อยู่หอพักเดียวกัน อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาด้วยกัน

กระนั้น เส้นทางของ นายชัยธวัช ตุลาธน ก็มิได้เป็นเส้นทาง ที่อยู่กับเสียงเพลงแม้ว่าจะร่วมเคลื่อนไหวผ่าน”สสนท.”มากับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

แม้ว่าจะเคยร่วมอยู่ในกองบรรณาธิการ”ฟ้าเดียวกัน”ร่วมกับ บอกอ”ปุ๊ ฟันธง” มาอย่างยาวนานก่อนตัดสินใจจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ในปี 2561

แม้ว่า”หนี”จะเป็นสุดยอดแห่ง 36 กลยุทธ์ แต่ที่ นายชัยธวัช ตุลาธน งัดมาใช้กลับเป็นการ”เผชิญหน้า”อย่างยอกย้อนแยบยล

 

ไม่ว่า”น้องไบร้ท์” ไม่ว่า”เฮียสรยุทธ์”ย่อมสัมผัสได้ว่า นายชัยธวัช ตุลาธน ใช้เสียงหัวเราะเป็นใบเบิกทาง พร้อมกับคำอธิบายแจกแจงถึงเหตุผลที่ไม่อาจร้อง

1 คือการไม่ได้เตรียม และ 1 คือเหมือนจะยืนยันว่าไม่ต้องร้อง

ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งแหลมคมเป็นอย่างมากคือเห็นว่าคนที่มี ความเหมาะสมมากกว่าคือ”พิจารณ์”และ”ธนาธร”

ชื่อหลังทำให้ สรยุทธ์ สุทัศนจินดา ถึงกับยอมจำนน