เผยแพร่ |
---|
การเลือกเอา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ มาเป็นคู่สนทนากับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ของรายการคมชัดลึกแห่งเครือเดอะ เนชั่น ถือเป็นความงดงามอย่างหนึ่งในทางการเมือง
เป็นความงดงามที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ประกาศการยืนอยู่มุมตรงกันข้ามกับนโยบายยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร
ไม่เพียงอยู่ตรงกันข้ามอย่างสงบเสงี่ยมหากไม่พอใจอย่างสูง
ขณะเดียวกัน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ก็เป็นคนที่ยืนหยัดอยู่กับแนวนโยบายยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารด้วยความมั่นใจไม่ยิ่ง หย่อนไปกว่าที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กระทำ
ยิ่งกว่านั้น ตัวของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นอกจากเป็นคนที่มี ประสบการณ์ตรงกับการเข้าไปเป็นทหารก่อนเข้าสู่พื้นที่ในทางการเมืองแล้ว ที่สำคัญยังเคยเป็น”นิวเด็ม”แห่งพรรคประชาธิปัตย์
ในความเป็นจริง ก่อน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จะมาอยู่ในร่มธงของพรรคพลังประชารัฐก็เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ก็เช่นเดียวกัน
จึงไม่เพียง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จะเข้าใจ หาก นาย พริษฐ์ วัชรสินธุ ก็เข้าใจในลีลาและท่วงทำนอง
วิวาทะระหว่าง “ชัยวุฒิ-พริษฐ์”จึงแหลมคม ร้อนแรง
ต้องยอมรับว่าฐานในทางความคิดของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็นฐานจากความจัดเจน เป็นฐานในท่วงทำนองของนักการเมืองแบบพรรคประชาธิปัตย์
นั่นก็คือ ยืนอยู่บนความคิดในเรื่องรักชาติ ศาสนา พระมหา กษัตริย์ นี่ย่อมเป็นฐานเดียวกับความคิดของฝ่ายความมั่นคง
จึงสามารถเป็นหนึ่งดียวกับพรรคพลังประชารัฐแนบแน่น
ตรรกะที่เปรียบเทียบระหว่างการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารว่าเป็นกระสวนเดียวกันกับข้อเสนอให้นักเรียนมิต้องไปเรียนหนังสือจึงเกิดขึ้น
จึงเมื่อเผชิญกับการโต้แย้งอย่างมีข้อมูลและด้วยประสบการณ์ตรงที่มีอยู่ของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ที่ประสานกับสิ่งที่เป็นท่วงทำนองแบบพรรคก้าวไกลจึงสร้างความแตกต่าง
นี่จึงมิได้เป็นเรื่องของ”โวหาร” หากแต่อยู่กับ”ความจริง”
ผลสะเทือนอันเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันใดสำหรับใครก็ตามที่อยู่หน้าจอถ่ายทอดของคมชัดลึกจึงมิได้เป็นเรื่องของอารมณ์หากแต่ได้ค่อยๆสะสมความรู้สึกที่พัฒนาเติบใหญ่
นั่นก็คือ พัฒนาเติบใหญ่บนฐานแห่ง”ข้อมูล”ความเป็นจริง
จึงเท่ากับเป็นการนำเอาแต่ละกระบวนการวิวาทะของ 2 นัก การเมืองมาแยกจำแนกให้เห็นความแตกต่างระหว่างบุคคลกับความแตกต่างระหว่างพรรคการเมือง
เนื่องจากเป็นการปะทะเปรียบเทียบระหว่างเก่ากับใหม่