เผยแพร่ |
---|
แต่ละการเคลื่อนไหว แต่ละภาพอันปรากฏผ่าน นายชัชชาติ สิทธิ พันธุ์ กำลังกลายเป็น “บทเรียน” อันทรงความหมายยิ่งภายในผลสัมฤทธิ์ในทางการเมือง
นี่มิได้เป็นเรื่อง “บังเอิญ” ในลักษณะที่เรียกว่าโชคช่วย ตรงกันข้าม เป็นรูปธรรมอันตอกย้ำและยืนยันผ่านสโลแกน
“ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เด่นชัด
เหมือนกับเวลา 2 ปีกว่าที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทุ่มเททำภายหลังประกาศจะลงสมัครชิงตำแหน่ง”ผู้ว่าฯกทม.”จะเป็นเวลาอันน้อยนิด
เมื่อเทียบกับการอยู่ตำแหน่งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปีของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นับแต่แหวกเมฆเหินมาพร้อมกับอำนาจตามมาตรา 44 ของคสช.
แต่ด้วยพลังแห่งปฏิบัติการ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นั้นเองทำให้ผงาดอยู่ เหนือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อย่างสิ้นข้อสงสัย
ยิ่งเมื่อได้รับฉันทานุมัติบนพื้นฐานแห่ง 1.3 ล้านเสียงจากชาวกรุงเทพมหานครมา ยิ่งเท่ากับได้รับ”คำสั่ง”ให้ต้องเดินหน้า
“ทำงาน ทำงาน ทำงาน”ต่อไป
ท่ามกลางอาการ”กระบอกตาร้อนผ่าว”ที่บังเกิดขึ้นตลอดสองรายทางแห่งการ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”
ในขณะที่คณะก้าวหน้าซึ่งนำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล กำลังเปิดหลักสูตรอบรมเพื่อบ่มเพาะคน ทำงานการเมือง”ท้องถิ่น”
แนวทางอันสะท้อนผ่านสโลแกน”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ น่าจะเป็น”บทเรียน”สำคัญ
ทั้งๆที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มิได้เป็น”คนหน้าใหม่” ตรงกัน ข้าม เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสร้าง”พื้นที่”ทางการเมืองมาในระดับที่แน่นอน
เมื่อประสานเข้ากับภูมิหลังของครอบครัวไม่ว่าจะจาก”บิดา”ในตระกูลสิทธิพันธุ์ ไม่ว่าจะจาก”คุณตา”ในตระกูลกุลละวณิชย์
กระนั้น ก็ยังเดินหน้า”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”ด้วยความมั่นแน่ว
มองจากความเคยชินเดิมในทางการเมือง ทุกนักการเมืองล้วนเคยเปล่งและนำเสนอสโลแกน”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”มาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น แต่ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ไหน
คำตอบจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คือการลงมือทำแท้จริง
หากได้แต่เปล่งประกาศและออกแถลงการณ์ก็เหมือนบางพรรคการเมืองที่ถูกยกป้าย”ดีแต่พูด”เป็นการประจาน
กล่าวสำหรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็น”พูดแล้วทำ”เด่นชัด