เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าจังหวะก้าวทางการเมืองในการส่ง นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ลงสมัครรับเลือกตั้ง”ซ่อม” ไม่ว่าจังหวะก้าวในการส่ง นายวิโรจน์ ลัก ขณาอดิศร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น”ผู้ว่าฯกทม.”
ล้วนเป็นจังหวะก้าวอันมีความสัมพันธ์ ส่งผลสะเทือนต่อกันและกันอย่างมิอาจจะปัดปฏิเสธได้
ในทางกลยุทธ์ การเปิดตัว นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นแคนดิเดต”ผู้ว่าฯกทม.”ในวันที่ 23 มกราคม เกิดขึ้นภายหลังการเปิด เวทีปราศรัยใหญ่ในจตุจักร หลักสี่ เพียง 1 วัน
หากจับภาพการปรากฏตัวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หากจับน้ำเสียงอันออกมาจากแต่ละคนของพรรคก้าวไกลบนเวที ไม่ว่าจะเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ว่าจะเป็น นายกรุณพล เทียนสุวรรณ จะสัมผัสได้ในความสัมพันธ์ต่อเนื่อง
เป็นความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับการประกาศวางตัว นายวิโรจน์
ลักขณาอดิศร ในฐานะแคนดเดต”ผู้ว่าฯกทม.”อันเท่ากับเป็นกระดานหกอย่างมีนัยสำคัญทางการเมือง
กล่าวเฉพาะหน้าก็คือ ต่อ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ
กล่าวสำหรับพรรคการเมืองอื่น พลันที่เห็นการจัดวางในแต่ละจัง หวะก้าวทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น พรรคประชาธิปัตย์ ย่อมมองออกว่าดำเนินไปอย่างไร
นั่นก็คือ ยุทธศาสตร์ที่พรรคก้าวไกลต้องการยึดครองพื้นที่ของ กรุงเทพมหานครอย่างเบ็ดเสร็จ
ไม่เพียงแต่พื้นที่นี้พรรคอนาคตใหม่เคยได้”ป้อบปูลาร์ โหวต”มาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 หากแต่ยังมี ส.ส.เป็นจำ นวนมากถึง 33 เขตเลือกตั้ง
พรรคการเมืองใดสามารถปักธงจากการเลือกตั้งใน 33 เขต เลือกตั้งของกรุงเทพมหานครได้
เมื่อผนวกรวมกับบัญชีรายชื่อย่อมมีฐานะเด่นทางการเมือง
ความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาของพรรคก้าวไกลอาจเป็นท่วงทำนองที่ น่าสนใจในทางการเมือง แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้พรรคก้าวไกลต้องตกเป็นเป้ากลายเป็นตำบลกระสุนตกขึ้นมา
และเหยื่ออันดับแรกคือ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ
ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคกล้า ไม่ว่าพรรคไทยภักดี หรือแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยย่อมต้องการดับความหวังนี้
ชะตากรรมของ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ จึงหวาดเสียวยิ่ง