เผยแพร่ |
---|
หากมองผ่านเงาร่างของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หากมองผ่านเงาร่างของ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
บทบาทในแบบ”ลงมติประชาชน รวมพลไล่ประยุทธ์”ดูแปลก
ที่แปลกมิได้เพราะวัยอย่างเดียว หากยังเพราะมีภาพแห่งความ เป็น ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคชาติประชาธิปไตยร่วมกับ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และต่อมาก็อยู่กับกลุ่ม นายสุชาติ ตันเจริญ
ยิ่งกว่านั้น การเคลื่อนไหวในแบบ”แคมเปญ”เช่นนี้ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะเป็นท่วงทำนองและความถนัดของพรรคเพื่อไทย
น่าจะเป็น”กระบวนท่า”ในแบบ”อนาคตใหม่”หรือ”ก้าวไกล”
เพราะนี่คือกระบวนท่าที่ผ่านโลกของ”โซเชียล มีเดีย” เป็นการส่งสารไปยัง “คนรุ่นใหม่” อันเป็นรากฐานที่แปลกแยกอย่างยิ่งเมื่อ มองลงไปยังฐานของพรรคเพื่อไทย
แม้จะมีการดันหลัง นายสุทิน คลังแสง ออกมาร่วมด้วยก็ตาม
จึงเด่นชัดอย่างยิ่งว่า บทบาท”ลงมติประชาชน รวมพลไล่ประ ยุทธ์”น่าจะเป็นผลสะเทือนจาก”เลือดใหม่”ในพรรคเพื่อไทยมากกว่า
เป็นเลือดใหม่อันปรากฏพร้อมกับพลังดันของ โทนี่ วู้ดซั่ม
ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะมองผ่านบทบาทและการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมองผ่านบทบาทและการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงว่าดำเนินไปอย่างมีการเปลี่ยนแปลง
เป็นการเปลี่ยนแปลงหลังกลุ่มของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อำลาไปอยู่บนเส้นทาง”พลังสร้างไทย”
นั่นก็เห็นได้จากการปรากฏขึ้นของ “แคร์ คิด เคลื่อน ไทย” พร้อมกับการดำรงอยู่อย่างเป็นเหมือนกับแม่เหล็กแท่งมหึมาในการ ดูดพลังใหม่เข้ามา
นั่นก็เห็นได้จากการปรากฏขึ้นของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่เชื่อม เข้าไปยัง”คาร์ม็อบ”ของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์
และแล้วแคมเปญ”ลงมติประชาชน รวมพลไล่ประยุทธ์”ก็เกิด
กว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ตามความคาดหมายของ โทนี่ วู้ดซุ่ม ก็ไม่น่าจะเกินไตรมาสแรกของปี 2565 น่าเชื่อว่าจะต้องมีการ ขยับขับเคลื่อนมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแคร์ คิดเคลื่อนไทย
ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวบนเส้นทางแห่ง”รัฐสภา” ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวบนเส้นทาง”นอก”ระบบรัฐสภา
เป็นการขยับ ปรับตัวเพื่อรับการเลือกตั้งที่จะตามมาในไม่ช้า