รูปการเคลื่อนไหวในทางความคิด รูปการเคลื่อนไหวในทางการเมืองในปัจจุบันปรากฏขึ้นอย่างหลากหลายไม่น่าเชื่อ

มีทั้งรูปแบบที่ประกาศตัว มีทั้งรูปแบบที่ประกาศความคิด

อย่างการเคลื่อนไหวในแบบ”คาร์ม็อบ”ก็มี นายสมบัติ บุญงาม อนงค์ เป็นคนขับเคลื่อน การเคลื่อนไหวของเครือข่ายขับไล่ประยุทธ์ หรือ”อหต.”ก็มี นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เป็นคนทำงาน

ขณะเดียวกัน ก็มี”เยาวชนปลดแอก” ซึ่งไม่มีการแสดงตัว ก็มี

“เครือข่ายประชาธิปไตย” ซึ่งไม่มีการแสดงตัว ยิ่ง”คณะราษเปษ”ที่จุดประเด็นในแบบ”มู”ยิ่งแล้วใหญ่

นั่นก็คือ มีการเสนอประเด็น มีการถกแถลง วิพากษ์วิจารณ์ แต่มีความเป็นมาอย่างไร ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครตอบได้ แต่ที่แน่ๆก็คือก่อให้ เกิดการถกเถียงกันอย่างคึกคัก

มิได้คึกคักอย่างธรรมดาหาก#คณะราษเปษถึงกับขึ้นอันดับ 1

แม้จะก่อวิวาทะในเชิงขัดแย้งและแตกแขนงในทางความคิดเป็นอย่างสูงในปมว่าด้วย”ไสยศาสตร์”หรือ”การเมือง”

แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสะท้อน”ล้าหลัง”หรือก้าวไป”ข้างหน้า”

 

แต่ละปรากฏการณ์ในทางความคิด แต่ละปรากฏการณ์ในทางการ เมืองอาจมีหน่ออ่อนละม้ายคล้ายคลึงกับสถานการณ์ในอดีต แต่ก็มิได้เป็นการลอกเลียนอย่างเชื่องๆ

ตรงกันข้าม กลับเป็นการเกิดขึ้นอย่างชนิดที่สร้างความตื่นตลึงให้กับคนรุ่นก่อนอย่างมหาศาล

อย่างเช่นรูปการเคลื่อนไหวในแบบ”เยาวชนปลดแอก”และ”กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย”เป็นต้น ในที่สุดก็บรรลุสภาวะในรูปแบบที่ไม่มีแกนนำ ไม่มีเวที ไม่มีการปราศรัย

กระนั้น กลับสามารถขับเคลื่อนการแสดงออกอย่างต่อเนื่องและด้วยความคึกคัก เปี่ยมด้วยชีวิตและวิญญาณ

ถึงกับบางครั้งมีการตระเตรียมกำลังถึง 38 กองร้อยเพื่อรับมือ

 

ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในแบบ”คาร์ม็อบ” ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในแบบของ”คณะราษเปษ” ไม่ว่าการเคลื่อนไหวในแบบของ”เยาวชนปลด แอก” หรือ”กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย”

เป้าหมายก็ดำเนินไปสู่เนื้อหาเดียวกันกับที่มีการสรุปออกมาเป็น “เครือข่ายขับไล่ประยุทธ์” หรือ”อหต.”

ทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณอันสื่อมาจาก”คนรุ่นใหม่”

ทั้งหมดล้วนมีการขานรับอ้อมๆมาจาก”คนรุ่นเก่า”ที่เข้าใจ