เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งตั้งแต่ก่อนสถานการณ์รัฐประหารเมื่อเดือนกัน ยายน ๒๕๔๙ ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งตั้งแต่ก่อนสถานการณ์รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๗
เกิดเป็น “พันธมิตร” เกิดเป็นมวลมหาประชาชน”กปปส.” เกิดเป็น “นปช.”
เมื่อมาถึงเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ ทุกคนล้วนมีชะตากรรมเดียวกัน
พลันที่ไข้หวัดใหญ่ ไวรัส โคโรนา หรือที่เรียกว่า โควิด-๑๙ ที่แพร่มาจากมหานครอู่ฮั่น ประเทศจีน เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทุกคนล้วนมีสภาพเหมือนกัน
ไวรัส โควิด-๑๙ ไม่เลือกว่าเป็นพวกเดียวกับรัฐบาล ไม่เลือกว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาล
เอกภาพแห่งผลสะเทือนจาก”ไวรัส”เป็นเช่นเดียวกัน
ถามว่าอะไรคือคำถามที่ตรงกันของประชาชาติไทย ณ เบื้องหน้าการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-๑๙
๑ คือ ถามว่าคนไทยจะรอดปลอดภัยได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน ๑ คือ ภายหลังจากพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาด ของไวรัสแล้วสังคมประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
คำถามแรกทุกสายตามองไปยัง “รัฐบาล”
ประเด็นอยู่ที่ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างความมั่นใจได้มากน้อยเพียงใด
เปรียบเทียบกับจีน เปรียบเทียบกับสิงคโปร์
นี่มิได้เป็นการเปรียบเทียบในเรื่องมาตรการของผู้นำ หากแต่ยังเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพและการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ของตนเอง
ดูเหมือนว่าสังคมไทยจะเริ่มมีฉันทามติ”ร่วม”เด่นชัดยิ่งขึ้น
ในท่ามกลางการแก้ไขปัญหาเกิดคำถามขึ้นในสังคมจีนหรือไม่ เกิดคำ ถามขึ้นในสังคมสิงคโปร์หรือไม่
มีกลิ่นและข่าวปล่อยในเรื่อง “รัฐประหาร” หรือไม่
กลิ่นของรัฐประหาร การถกเถียงกันในประเด็นอันเกี่ยวกับรัฐประหารคือ อาการอย่างหนึ่งของโรค ที่สะท้อนความแตกต่างกันของแต่ละสังคมของแต่ละประเทศ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-๑๙ จึงเป็นสถาน การณ์อันทรงความหมายยิ่งสำหรับสังคมไทย
เป็นการตรวจสอบอุณหภูมิการเมือง อุณหภูมิทางสังคม