เผยแพร่ |
---|
ความรู้สึก “ร่วม” อันปรากฏขึ้นในห้วงส่งท้ายปีเก่า 2562 กับต้อนรับปี ใหม่ 2563 คืออะไร
1 ความรู้สึกว่าปี 2563 หนักหนาสาหัส
ไม่ว่าจะมองผ่านกรอบในทางการเมือง ไม่ว่าจะมองผ่านกรอบใน ทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะมองผ่านกรอบในทางวัฒนธรรม
มองเห็นแต่ด้านที่หดหู่ สิ้นหวังและเศร้าหมอง
ขณะเดียวกัน ความรู้สึกเหล่านี้นำไปสู่ความคิดรวบยอดที่ว่า รัฐ บาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมาภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมี นาคม 2562
เป็นรัฐบาลอย่างที่สรุปได้ว่า ไม่มี ฮันนีมูน พีเหรียด
ไม่เพียงแต่ร่างพรบ.งบประมาณออกมาอย่างล่าช้า หากแต่เพียง 5 เดือนก็ปะเข้ากับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
นี่คือชะตากรรมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หากตอบคำถามที่ว่า ปัญหาความหดหู่ สิ้นหวังและเศร้าหมองต่อสภาพในทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม อย่างที่รู้สึกในห้วง ปีใหม่ได้ว่าเกิดขึ้นอย่างไร
ถามว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นในห้วง 5 เดือนแรกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ
คำตอบเด่นชัดว่า ไม่ใช่ หรือไม่น่าจะใช่
ตรงกันข้าม ปัญหาเหล่านี้ได้รับการระบุว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนรัฐ ประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 แล้ว
และคมช.เข้ามาทำรัฐประหารก็เพื่อที่จะแก้
ปรากฏว่าคมช.ไม่สามารถแก้ไขจึงเกิดการเคลื่อนไหวและนำไปสู่การรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 โดยระบุว่ารัฐประหารเมื่อปี 2549 เป็นรัฐประหารเสียของ
สภาพการณ์ในเดือนมกราคม 2563 เด่นชัดว่าแก้ได้หรือไม่ได้
มีความพยายามจากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรียกร้องต่อญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจให้มีกรอบเพียง 5 เดือนหลังการเลือกตั้ง
หากมองจากปัญหาที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในปัจจุบันก็ยากอย่างยิ่งที่จะจำกัดกรอบอย่างนั้น
ในทางเป็นจริง ปัญหามีความต่อเนื่อง
ต่อเนื่องจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 มายังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
ขณะนี้ได้ตกอยู่บนบ่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา