E-DUANG :​​​ ธรรมชาติ วงกลม ย่อมไร้มุม ธรรมชาติ วงกลม ที่กลมกลิ้ง

เมื่อ “เส้นตรง” เส้นหนึ่งตั้งอยู่บน “เส้นตรง” อีกเส้นหนึ่ง นั่นคือกำเนิดแห่ง “มุม”

“มุม” อันเป็นที่มาแห่ง “เหลี่ยม” แห่ง “คม”

ความเป็นจริงนี้รับรู้อย่างที่เป็น “ทฤษฎี” และเมื่อนามธรรมแห่งทฤษฎีไปสู่รูปธรรมทาง “การปฏิบัติ”ที่เป็นจริง

ก็สามารถสัมผัสได้ไม่ว่า”มุม” ไม่ว่า”เหลี่ยม”

เหมือนกับที่สัมผัสผ่านโลโก้ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือ “ขส.มก.”

เหมือนกับที่สัมผัสผ่านโลโก้ของพรรคพลังประชารัฐ หรือ”พปชร.”

และพลันที่โลโก้ของพรรคพลังประชารัฐแปรเปลี่ยนจากที่เคยเป็น เหลี่ยมเป็นมุมมาเป็น “วงกลม”

ความรู้สึกต่อเหลี่ยมก็อย่างหนึ่ง ความรู้สึกต่อวงกลมก็อย่างหนึ่ง

 

หากฟังจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ “โลโก้พรรคปรับเหลี่ยมมุมใช้ลายเส้นที่เป็นวงกลมมาแทนที่ เปรียบเสมือนความกลมเกลียวของรัฐบาลและประเทศไทยที่เปี่ยมไปด้วยความสามัคคี”

นั่นเป็นมุมมองของเลขาธิการพรรค

“เหตุผลที่ทำให้วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องเปลี่ยนโลโก้ พรรคเพื่อลบภาพความขัดแย้ง

ก็จาก “รังผึ้ง” เปลี่ยนมาเป็น “ลูกโลก”

ที่มีความใหญ่ขึ้น เป็นพระจันทร์ เป็นพระอาทิตย์ มีประเทศไทยสี ธงชาติยิ่งใหญ่”

เป็นมุมมองของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

เท่ากับเป็นการตีความระหว่างที่เป็น “เหลี่ยม” เป็นมุมมาเป็น”วงกลม”

เป็นไปตามธรรมชาติของ”วงกลม”

 

ขณะที่หากมองจาก “มุม” ก็มากด้วย “เหลี่ยม” หากมองจาก”เหลี่ยม” ก็มากด้วย “คม”

เช่นเดียวกับ เมื่อมองตามความเป็นจริงของ”วงกลม”

วงกลมแม้จะเกิดจาก “เส้นตรง” แต่ก็มิได้เป็นเส้นตรงอันวางอยู่บนเส้นตรง

ตรงกันข้ามเป็นเส้นตรงที่มีความต่อเนื่อง

เป็นความต่อเนื่องโดยมองไม่เห็นจุดจบ ไม่เหมือนเหลี่ยม ไม่เหมือนมุม

เป็นความกลม กลิ้งไปได้ตลอดเวลา