เผยแพร่ |
---|
เหมือนกับเส้นทางของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่เริ่มจากการเสนอ ยุบพรรคประชาชนปฏิรูปจะดำเนินไปด้วยความราบรื่นเป็นอย่าง ยิ่งเมื่อกกต.เห็นชอบด้วย
กระนั้น หากฟังจากอดีตกกต.อย่าง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร หรือนักกฎหมายอย่าง นายเจษฐ์ โทณวณิก
ก็ใช่ว่าเส้นทางเดินของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน จะเพลินดี
เพราะแม้กระทั่งมือกฎหมายระดับ นายวิษณุ เครืองาม ก็ออกมายอมรับว่า กรณีของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ถือเป็นโจทย์หนึ่งที่ยาก
มติของกกต.ให้ยุบพรรคประชาชนปฏิรูปจึงเท่ากับเป็นการ เปิดประตูให้กับ นายไพบูลย์ นิติตะวัน
คำถามอยู่ที่ว่าเปิดประตูไปสู่หนทางใด
แน่นอนจากมุมมองและความต้องการของ นายไพบูลย์ นิติตะวันและพวกพ้อง เป้าหมายย่อมเป็น”ประตูสวรรค์”ทอดไปยังพรรคพลังประชารัฐ
เหมือนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อ้าแขนพร้อมโอบรับด้วยความอบอุ่น
และเพียงก้าวแรกที่แล่นฉลุยอย่างง่ายดาย
เพราะคณะกรรมการกกต.เห็นชอบด้วยกับข้อเสนอครบถ้วน บริบูรณ์
เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่ก้าวต่อไป
นั่นก็คือ จะบริหารจัดการคะแนนอันเป็นพื้นฐานการเป็นส.ส. บัญชีรายชื่อของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อย่างไรจึงจะสามารถเชื่อมเข้ากับพรรคพลังประชารัฐอย่างเนียนนวล
เส้นทางสายนี้เมื่อสังคมปรับความจัดเจนของกกต.จากกรณีของการนำเสนอสูตรคำนวณคะแนนและจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อก็แทบไม่มีข้อกังขา
แต่ปมอยู่ที่ว่าจะมีคนตั้งข้อกังขาและยื่น”ศาล”หรือไม่
จากนี้จึงเห็นเด่นชัดว่า ประตูและเส้นทางที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ก้าวเดินต่อไปเพื่อไปหยุดลง ณ พรรคพลังประชารัฐ ใช่จะง่ายดายราบรื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขา
อย่างน้อยก็มีคนและกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยอาจกลายเป็นมารคอหอย
ไม่ต้องการให้ประตูของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ไปสู่ประตูสวรรค์อย่างที่มาดหมายเอาไว้