เผยแพร่ |
---|
พลันที่เห็นการก่อรูปขึ้นของ”พรรคประชาชาติ”ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นผู้นำ
คสช.ก็รู้แล้วว่ากลยุทธ์ของ”เพื่อไทย”จะออกมาอย่างไร
เพราะหากย้อนกลับไปศึกษาวิถีดำเนินของพรรคประชาชาติ นับแต่มี นายซูการ์โน มะทา ออกมาเปิดตัว ประสานเข้ากับ นายนัจมูดีน อุมา
ผู้คนก็สัมผัสได้ถึงจังหวะก้าวของ “กลุ่มวาดะห์”
ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ข่าวลือที่ตามมาว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการศอ.บต.มีบทบาทร่วมด้วยช่วยกันกับพรรคประชาชาติอย่างเงียบๆ
ยิ่งกว่านั้น ยังเป็น”ท่าที”อันมาจากพรรคเพื่อไทย
ไม่ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่า นายวัฒนา เมืองสุข มองเห็นจังหวะก้าวของพรรคประชาชาติไทยด้วยความเป็นมิตร
มองเห็นความจำเป็น มองเห็นบทบาทและความหมาย
ความหมายอันเด่นชัดก็คือ การแยกตัวออกไปของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา มิได้มีปัญหาขัดแย้ง แตกแยก
ไม่เหมือนกรณี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข
ไม่เหมือนกรณี นายจำลอง ครุฑขุนทด หรือ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์
ตรงกันข้าม เป็นไปด้วยสันถวมิตรอันสนิทสนม
ตรงกันข้าม จุดเน้นหนักของพรรคประชาชาติไทยมิได้อยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ อันเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย
ตรงกันข้าม เน้นเจาะเฉพาะ 1 กลุ่มมุสลิม และ 1 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
สัประยุทธ์กับพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง
ไม่ว่าคสช. ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมมองออก
นี่ คือแผน “แยกกันเดิน”
ในเมื่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดบัตรเลือกตั้งเป็นใบเดียว กลยุทธ์ก็ต้องดำเนินไปอย่างสอดรับและเหมาะสม หากทาง หนี หาทีไล่
การเกิดขึ้นของพรรค”พันธมิตร”ใน”แนวร่วม”ย่อมตามมา เพื่อความอบอุ่น เพื่อความแข็งแกร่ง มั่นคง