หากฟังจากน้ำเสียงของ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล ในวันประชุมเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทยเมื่อเดือนมิถุ นายนที่ผ่านมาที่ว่า

พรรคเพื่อไทยจะอยู่ถึงวันเลือกตั้งหรือไม่

เท่ากับสะท้อนไม่เพียงแต่ 1 ความรู้สึกของคนที่เห็นด้วยกับการชัตดาวน์และการสกัดขัดขวางการเลือกตั้งก่อนรัฐประหารเมื่อ เดือนพฤษภาคม 2557 ต่อพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

หากแต่ 1 ยังดำเนินไปเหมือนกับเป็น”ตัวแทน”หรือเป็น”เงาสะท้อน” แห่งความต้องการของผู้มีอำนาจที่อยาก”มัดตราสัง”ต่อ พรรคเพื่อไทยอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

นั่นก็คือ เลือกที่จะเตะสกัดขาเหมือนกับที่เคยทำกับพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน

 

ความรู้สึกเช่นนี้ที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในปรปักษ์ทางการเมือง ของพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า

1 คนเหล่านี้”กลัว”พรรคเพื่อไทย

ขณะเดียวกัน 1 แม้จะพยายามโค่นล้มและทำลายตั้งแต่เป็น พรรคไทยรักไทย เป็นพรรคพลังประชาชน กระทั่งมาอยู่ในรูปของ พรรคเพื่อไทย ก็ไม่สามารถบดขยี้ให้แหลกละเอียดได้ในทางเป็นจริง

หากยังเดินหน้าไปสู่ “การเลือกตั้ง” ก็รับรู้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ให้แก่พรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน

พรรคประชาธิปัตย์นั้นแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว

แม้จะจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐประสานเข้ากับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ประสานเข้ากับพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมิอาจเอาชนะเพื่อไทยได้

จึงเหลือหนทางเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ นั่นก็คือ ยุบพรรคเพื่อไทยไม่เปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้เข้าสู่”การเลือกตั้ง”

 

ความพยายามเช่นนี้สัมผัสได้ตั้งแต่สถานการณ์ในเดือนพฤษภาคมเมื่อมีการส่งทหาร ตำรวจบุกเข้าไปในพรรคขัดขวาง การแถลงของพรรคเพื่อไทย

เห็นได้ตั้งแต่มีคำสั่งในเดือนมิถุนายนให้กกต.จัดการกับการสไกป์ระหว่างลอนดอน กรุงเทพฯ

ทุกอย่างล้วนสะท้อนความต้องการจัดการกับพรรคเพื่อไทย

เพราะหากไม่มั่นใจว่าจะจัดการกับพรรคเพื่อไทยได้อย่างเป็นจริงก็คงจะเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างไม่ปลอดโปร่งเท่าใดนัก