E-DUANG : ความรับผิดชอบ ต่อมติคว่ำ 7 กกต.

ไม่ว่าการตัดสินใจ “คว่ำ” ว่าที่ 7 กกต.กลางที่ประชุมสนช.จะมาจาก “สมองก้อนโต”ของใคร

แต่ “มติ” นี้ “เสีย” มากกว่า”ได้”

เหมือนกับการย้อนกลับไปเริ่มต้น “สรรหา” ใหม่จะทำให้มีหลายฝ่ายอยู่ในสถานะเป็นฝ่าย”ได้”ประโยชน์

อย่างน้อย”การเลื่อกตั้ง”ก็สามารถ”เลื่อน”ออกไปได้อีก

เมื่อสามารถยือ ถ่วงและหน่วงเวลาของ”การเลือกตั้ง”ให้ทอด ยาวออกไปก็หมายความว่า คนบน”เรือแป๊ะ”ย่อมได้รับผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม

เฉพาะ สนช.ก็เสพเงินเดือนอีกเดือนละ 28 ล้านบาท

ยอดเงินในบัญชี”ธนาคาร”ก็เพิ่มพูน จำรูญ จำรัส ชัดๆ

 

แต่คำถามที่ดังก้องตามมาอย่างชัดๆอีกเช่นเดียวกันก็คือ บรรดา สนช.เหล่านี้มาจากไหน

ใครเป็นคนแต่งตั้ง

คำตอบก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่าเป็นการคัดสรรและลงนามแต่งตั้งโดยหัวหน้าคสช.

นั่นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อการยื้อ หน่วง ถ่วงเวลา โดย”อภินิหาร”แห่งกระบวนการนิติบัญญัติอวยประโยชน์ให้กับบรรดาสนช.และบรรดาคนใน”เรือ แป๊ะ”กันอย่างเห็นๆ

มีหรือที่ “คสช.” จะไม่ได้รับ “ประโยชน์” ไปด้วย

คำสั่งและประกาศคสช.ก็จะยังดำรงคงอยู่ อำนาจในการใช้ผ่านมาตรา 44 ก็ยังดำรงคงอยู่

“อำนาจ” ก็ยังอยู่ใน “มือ”

 

มติอันส่งผลให้กระบวนการสรรหา 7 กกต.ย้อนกลับไปนับ 1 ใหม่จึงเท่ากับเป็นส่วนหนึ่งภายในกระบวนการยื้อ หน่วง ถ่วง เพื่อทอดเวลา”การเลือกตั้ง”ให้ยาวออกไป

เราจะทำตาม “สัญญา” ขอ “เวลา” อีกไม่นาน

เมื่อประโยชน์เห็นๆล้วนตกเป็นของคสช.และองคาพยพแห่ง”แม่น้ำ 5 สาย”อย่างเด่นชัด

สปอตไลต์จึงฉายจับไปยัง “คสช.”

ความรับผิดชอบทั้งปวงจึงมิได้อยู่ที่ “สนช.” เท่านั้นหากแต่ยังอยู่บนบ่าของ “คสช.”เต็ม-เต็ม

ที่คิดว่า”ได้” ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า”ได้”จริงหรือ