สถานการณ์การชุมนุมบริเวณพื้นที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน เมื่อตอนเย็นของวันที่ 27 มกราคม

เป็นสถานการณ์อันเกิดขึ้นในปี 2561

แตกต่างเป็นอย่างมากกับสถานการณ์แบบเดียวกันอันเคยเกิดขึ้นหลัง “รัฐประหาร”

ไม่ว่าจะเป็นในปี 2557 ไม่ว่าจะเป็นในปี 2558

กระนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มอง “สถานการณ์”ในปี 2561 ว่าเป็นอย่างเดียวกับสถานการณ์ในปี 2557 หรือในปี 2558

ทั้งๆที่ “เนื้อหา”ของการชุมนุมไม่เหมือนกัน

การชุมนุมในปี 2557 หรือในปี 2558 เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็น การแสดงความไม่เห็นด้วยกับ “รัฐประหาร”

แต่ในปี 2561 แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

 

หากมองจากสโลแกนต่อต้าน”การยื้ออำนาจ”หากตีความได้ว่ายังคัดค้านคสช.ซึ่งมาจากกระบวนการ”รัฐประหาร”

แต่การต่อต้าน”การยื้อเลือกตั้ง”กลายเป็นหนังคนละม้วน

ถามว่าการประกาศในเรื่องของ”เลือกตั้ง”เกิดขึ้นมาจากไหนและเป็นการกำหนดโดยใคร

ตอบได้เลยว่า มาจาก”คสช.”นั่นเอง

นายชินโส อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นย่อมระบุได้ว่าใครเคยไปให้คำมั่นสัญญากับเขา

บรรดาผู้นำนานาชาติซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติทั้งที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นประธานาธิบดี ย่อมระบุได้ว่าใคร เคยไปให้คำมั่นสัญญากับเขา

นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ย่อมระบุได้ว่าใครเคยไปให้คำมั่นสัญญากับเขา

นั่นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

การชุมนุมอย่างที่เรียกว่า Start Up People ที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน

หรือที่นัดหมาย ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 10 กุมภาพันธ์

จึงเป็นการชุมนุมของพวกที่เรียกร้องต้องการ”การเลือกตั้ง”และเพื่อปกป้องให้คำประกาศ

อันเป็นดั่ง”สัญญาประชาคม”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการปฏิบัติอย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรี

อย่าคิดว่า”ความต่าง”นี้ไม่มีความหมายในทาง”การเมือง”