การเปิดประเด็นถึงความพร้อมที่จะกลับมาติดคุกโดย นายทักษิณ ชินวัตร กลายเป็นระเบิดลูกใหม่ที่จะทวีความร้อนแรงเป็นอย่างสูงในทางการเมือง

สะท้อนความสัมพันธ์อันมากด้วยความสลับซับซ้อนที่ดำรงอยู่ในพื้นที่การเมืองของไทยโดยอัตโนมัติ

เป้าหมายอาจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและยืนยันถึงความปรารถนาอันละเอียดอ่อนและลึกซึ้งยิ่งในทางการเมือง ต้องการกลับมาอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว

ยินดีติดคุกตามกระบวนการทางกฎหมาย ภายหลังจากตกอยู่สภาวะที่ต้องคิดคุกอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลา 17 ปี

คำถามเกิดขึ้นโดยฉับพลันว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

เป็นคำถามในลักษณะเดียวกันกับไข่เกิดก่อนไก่ การมีชีวิตของไก่มีรากฐานมาจากไข่ และโยงไปยังคำถามที่ว่าแล้วไข่เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

นั่นก็แล้วแต่ว่าใครเป็นคนถาม นั่นก็แล้วแต่ว่าใครเป็นคนให้

คำตอบ แต่ในที่สุดแล้วก็โยงไปยังสถานการณ์ 2 สถานการณ์ที่มีความสัมพันธ์กัน

คือ รัฐประหารกันยายน 2549 รัฐประหารพฤษภาคม 2557

 

การตัดสินใจของ นายทักษิณ ชินวัตร สอดรับกับข้อเสนออันมาจาก”คณะนิติราษฎร์” ภายหลังสถานการณ์รัฐประหารเมื่อเดือน กันยายน 2549

จำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะย้อนกลับไปศึกษาข้อเสนอของ”คณะนิติราษฎร์”อีกครั้งหนึ่งอย่างจริงจัง

และก็จะสัมผัสได้ว่ามีความสัมพันธ์กับแนวทางและนโยบาย ในเชิงรูปธรรมอันเคยเสนอโดยพรรคอนาคตใหม่และต่อเนื่องมาถึงพรรคก้าวไกลโดยอัตโนมัติ

ไม่ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะต้องการหรือไม่ ไม่ว่ามวลมหาประชาชนกปปส.จะต้องการหรือไม่ แต่การตัดสินใจนี้ของ นายทักษิณ ชินวัตร มีความแหลมคม

บางคนอาจมองผลในทางจิตวิทยาเฉพาะหน้าว่าต้องการผลเฉพาะคือแลนด์สไลด์ แต่แท้จริงแล้วจะสะเทือนยิ่งกว่านั้น

 

เดิมพันทางการเมืองนี้จาก นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเดิมพันที่จะไปไกลมากยิ่งกว่า”แลนด์สไลด์” หากแต่จะนำไปสู่การถกเถียงกันในเรื่องผลพวงของ”รัฐประหาร”เป็นการหาคำตอบถึงสาเหตุของ”ทศวรรษ”แห่งการสูญเปล่า

เนื่องจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในสังคมประเทศไทยปัจจุบันมิได้เป็นเรื่อง”ส่วนตัว” หากเป็นเรื่องของโครง สร้าง เป็นเรื่องของระบบอันสะท้อนผ่านระบอบ

นี่คือการต่อสู้อันแหลมคมเป็นลำดับของการเมืองไทย