E-DUANG : บทเรียน จาก คึกฤทธิ์ ปราโมช สู่เส้นทาง ประยุทธ์ จันทร์โอชา

คำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า”ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” เป็นคำประกาศอันสนองตอบต่อเจตจำนงแห่งการ”ไปต่อ”ในทางการเมืองอย่างเด่นชัด

มีคนจำนวนไม่น้อยผูกโยงกับทิศทางอัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เคยประกาศในห้วงแห่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

จึงไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นรากฐานความคิด ความต้องการที่เหมือนกับถอดพิมพ์เดียวกันมาระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา กับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เท่านั้น

หากแต่ยังทำให้เกิดนัยประหวัดไปถึงคำประกาศเมื่อปี 2519 ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคมซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่ว่า

“เราทำได้ เราทำมาแล้ว และจะทำต่อไป”

ความน่าหวาดเสียวเป็นอย่างสูงก็คือ หลังคำประกาศเหล่านี้ ชะตากรรมของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นอย่างไร ชะตากรรมของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นอย่างไร

ผลก็คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ไม่สามารถ”ไปต่อ” ผลก็คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไม่สามารถ”ไปต่อ

คำถามจึงพุ่งตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

การไม่สามารถได้”ไปต่อ”ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มาจากเดิน แนวทางการเมืองที่สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างสูงให้กับทหารที่นำโดย พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา

ทำให้ต้องพ่ายแพ้ในพื้นที่เขตดุสิต ทั้งเป็นความพ่ายแพ้ให้แก่ นายสมัคร สุนทรเวช ถือเป็นความอัปยศเป็นอย่างสูงต่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

ขณะที่การไม่สามารถได้”ไปต่อ”ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เกิดขึ้นในสถานการณ์ ที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เคยเป็นผู้ว่าฯกทม.

เป็นผู้ว่าฯกทม.โดยอำนาจของมาตรา 44 เป็นไปตามความ ประสงค์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช.จึง เท่ากับเป็นตัวแทนของคสช.โดยตรง

จึงเหลือแต่ชะตากรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้นว่าจะเป็นอย่างไร

 

คำประกาศ”ไปต่อ”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันที่จะเดินหน้าผ่านพรรครวมไทยสร้างชาติ ปฏิเสธบทบาทของพรรค พลังประชารัฐ จึงเท่ากับปฏิเสธบทบาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

จึงละม้ายกับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อปี 2519 และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เมื่อปี 2565

ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่บนทางสองแพร่ง