E-DUANG : ภาพ”อนุทิน” ในฐานะ “ตัวแทน” แทนที่ ประยุทธ์ แทนที่ ประวิตร

การเผยแสดงของ นายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะ”ครูใหญ่”แห่งพรรคภูมิใจไทยกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง

เมื่อส่งแรงดันไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เล่นบท”ตัวแทน”

เนื่องจากเป็นการเผยแสดงในความมั่นใจว่าหากพรรคภูมิใจ ไทยได้ ส.ส.จำนวนมากถึง 120 คนในการเลือกตั้งครั้งหน้าโอกาสย่อมเป็นของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล

ความหมายก็คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สามารถเป็นคู่ชิงตำ แหน่งนายกรัฐมนตรีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่คือความคม แหลมอย่างที่สุด

คำประกาศจากปาก นายเนวิน ชิดชอบ เท่ากับมองข้ามบท บาทและความหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปอย่างสิ้นเชิง

ขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นด้วยว่าทิศทางของพรรคภูมิใจไทยคือทิศทางในการที่จะต่อสู้และเบียดขับกับพรรคเพื่อไทยอย่าง ชนิดพื้นที่ต่อพื้นที่

ภายในชัยชนะของพรรคภูมิใจไทยในอีกด้านหนึ่งจึงเท่ากับดับยุทธศาสตร์”แลนด์สไลด์”ของพรรคเพื่อไทย

หากมิใช่ นายเนวิน ชิดชอบ จะประกาศอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด

 

มองจากความเป็นจริงของหลายพรรคการเมืองที่ประกาศตัว ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทย สร้างชาติ พรรคสร้างอนาคตไทย

พลันที่มีคำประกาศจาก นายเนวิน ชิดชอบ สายตาที่มองไปยังพรรคภูมิใจไทยก็บังเกิดความแปรเปลี่ยน

จากที่เคยไม่มั่นใจกลายเป็นความมั่นใจ

ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือ พรรคภูมิใจไทยและ นายเนวิน ชิดชอบ ตั้งเป้าอยู่ที่ 120 ขณะที่พรรคเพื่อไทยวางยุทธศาสตร์อยู่ที่จำ นวน 250 ขึ้น

สะท้อนให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมที่จะใช้เครื่อง มือเดียวกันกับที่พรรคพลังประชารัฐและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา เคยใช้มาแล้วนั่นก็คือ 250 ส.ว.น็น

ภารกิจของพรรคภูมิใจไทยจึงเบากว่าภารกิจพรรคเพื่อไทย

 

การเสนอตัวเข้ามาของ นายเนวิน ชิดชอบ จึงก่อให้เกิดภาพเปรียบเทียบไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เหมือนจะเป็นการต่อสู้ แต่ก็ต่อสู้อยู่บนฐานการเมืองร่วม

นั่นก็คือ เป็นการเมืองที่ยังยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับ”ระบอบ”ใหญ่อันเป็นที่มาแห่งรัฐประหาร อันเป็นที่มาแห่งรัฐธรรมนูญ

เพียงแต่เสนอตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล มาเป็นตัวเลือกใหม่