ปฏิบัติการล่าสุดจาก โทนี่ วู้ดซั่ม ผ่านคลับเฮาส์ เมื่อหยิบยกประเด็น”ลอบสังหาร”ประสานเข้ากับการเคลื่อนไหวอันนำไปสู่การทำรัฐประหาร

เด่นชัดว่า”ร้อนแรง”และ”แหลมคม”ในทางการเมือง

ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ก่อนและในระหว่างรัฐประหารเมื่อ เดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์และความต่อเนื่อง จากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

กำหนด “มิตร” เปิดรายชื่อบรรดา”ศัตรู”ออกมาอย่างแจ้งชัด ไม่มีการถมลายดำแต่อย่างใด

ในเมื่ออยู่ในบรรยากาศภายหลังการเลือกตั้ง”ผู้ว่าฯกทม.”ที่มีการต่อสู้กับทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและแกนนำ สำคัญในกปปส.อย่างเด่นชัด

นามของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล จึงได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับบท บาทในการส่งกำลังรุกเข้าไปเพื่อยึดครองบ้านจันทร์ส่องหล้าอย่าง ดุเดือดเข้มข้น

อย่าได้แปลกใจหาก นายสกลธี ภัททิยกุล จะออกมาชี้แจง

ความหมายอันมาแต่ละถ้อยคำของ โทนี วู้ดซั่ม คือการกำหนดปรปักษ์อันเป็นศัตรูทางการเมืองอย่างแจ่มชัดว่าเป็นใคร

 

กรอบทางการเมืองของ โทนี่ วู้ดซั่ม มิได้ลังเลหากเอ่ยถึงรัฐประ หารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ยิ่งรายละเอียดของรัฐประหารเมื่อ เดือนพฤษภาคม 2557 ยิ่งแจ่มชัด

เมื่อเปิดเผยรายละเอียดของกระบวนการ”ลอบสังหาร”พร้อม กับเอ่ยถึงบาง”พล.อ.”ก็รู้แล้วว่าเป้าหมายคืออะไร

อย่าว่าแต่จะระบุถึงบทบาทของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิ การคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)เลย แม้กระทั่งบทบาท ของ นายวิษณุ เครืองาม ก็กลายเป็นละครโรงใหญ่

บางคนอาจประเมินว่า โทนี่ วู้ดซั่ม บังเกิดความฮึกห้าวเหิม หาญจากตัวอย่าง”แลนด์สไลด์”ทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหา นคร แต่หากรู้จัก โทนี่ วู้ดซั่ม ก็จะเข้าใจว่ามิได้เป็นเรื่องบังเอิญ

ตรงกันข้าม ทุกอย่างได้ผ่านการกำหนดเอาไว้ใน”พิมพ์เขียว” 

ทางการเมืองอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มบท โทนี่ วู้ดซั่ม ขึ้นมา

 

จะทำความเข้าใจต่อ โทนี่ วู้ดซั่ม จำเป็นต้องติดตามแต่ละจังหวะ ก้าวของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

คนรุ่นนี้ล้วนดำเนินกลยุทธ์ในแบบส่งเสียงประจิมตีบูรพา

ด้านหนึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เล่นบท”แก้ไขไม่แก้แค้น” แต่ด้านหนึ่ง ก็ไม่เคยลืมชะตากรรมอันประสบก่อนและหลังรัฐประหาร

ล้วนเป็นอิสระ แต่ความจำทางการเมืองมีสูงเป็นอย่างสูงยิ่ง