เผยแพร่ |
---|
ขณะที่ด้านหนึ่งภาพของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จะค่อยๆหายไปจากเวทีดีเบต อีกด้านหนึ่ง ภาพของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กลับ ไปรากฎขึ้นด้วยความคึกคัก
เป็นความคึกคักที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เห็นเวทีดีเบตเป็นคุณ ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เห็นว่าเป็นโทษ
จึงไม่ว่าเมื่อ เดอะ รีพอร์ตเตอร์ จัด เมื่อช่อง 9 อสมท.จัดจึงไม่เห็นเงาร่างของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ปรากฏ ตรงกันข้าม นายวิ โรจน์ ลักขณาอดิศร เดินขึ้นเวทีอย่างองอาจ
ทั้งหมดนี้บรรดา”เกจิ”ในทางการเมืองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดเวทีดีเบต ลงความเห็นด้วยความมั่นใจว่าเวทีที่ตัดสินและเป็นเส้นแบ่งอย่างสำคัญคือเวทีที่ช่อง 3
เมื่อเป็นการผนึกพลังประสานมันสมองระหว่าง นายสรยุทธ์ สุ่มทัศนะจินดา แห่งเรื่องเล่าเช้านี้ เข้ากับประสบการณ์และความจัด
เจนของ นายกรรชัย กำเนิดพลอย จาก”โหนกระแส”
ผลก็คือ สร้างความเด่นให้กับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ขณะ ที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ถูกมองว่าถูกยกวางบนเขียง
จากการประมวลบทบาทของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวกระทั่งจัดรายการ แฟล็ช มีท อีพี 1 ถึงอีพี 3 จุดเด่นเป็นอย่าง มากของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร คือการสร้าง”จุดต่าง”
ไม่เพียงเป็นจุดต่างจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง หากยังเป็นจุดต่างจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
เป็นจุดต่างที่ต้องการ”เปลี่ยน”กรุงเทพมหานครสู่โฉมใหม่
ดำเนินตามพิมพ์เขียวในการทลายโครงสร้างแห่ง”รัฐราชการ รวมศูนย์”ซึ่งวางไว้ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ เพื่อนำไปสู่สังคมที่คนมี ความเท่าเทียมและเสมอภาคกัน
เป้าหมายของพรรคก้าวไกลที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นำมา
เสนออย่างเป็นระบบคือเจตจำนงในการเปลี่ยน”โครงสร้าง”
การเคลื่อนไหวทุกก้าวย่างของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะผ่าน นายวิ โรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ว่าจะผ่าน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ล้วน ดำเนินไปอย่างเป็นหนึ่งเดียวในทางความคิดเพื่อเปลี่ยนประเทศ
ทุกพื้นที่ของการเคลื่อนไหว ไม่ว่าการเลือกตั้งใหญ่ การเลือกตั้ง ซ่อม หมายถึงการรณรงค์ทางความคิด ทางการเมือง
ตรงนี้เองที่ทำให้ อนาคตใหม่ ก้าวไกล มี”จุดต่าง”อย่างเด่นชัด