ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หลุดคำพูดถึงสถานะและการดำรงอยู่ของตนว่าเป็นเสมือนกับ”เส้นเลือดใหญ่”ของ “รัฐบาล”

เหมือนกับเป็น “โวหาร” ในลักษณะอันเป็นการอวดตัวและคุยโวโอ้อวด

เพราะเส้นเลือดใหญ่มีความหมายต่อหัวใจและชีวิต

หากร่างกายของคนไม่มี “เส้นเลือดใหญ่” นั่นหมายถึงโอกาสที่หัวใจจะไม่สามารถ “เต้น” ได้อย่างปรกติภาพ และในที่สุดคนๆนั้นก็จะต้องตาย

ร่างกายต้องสูญเสียชีวิตไปหากขาด”เส้นเลือดใหญ่” ความเป็น รัฐบาลก็มิอาจดำรงอยู่ได้ หากตัวบุคคลที่เคยดำรงอยู่ในสถานะแห่ง ความเป็นเส้นเลือดใหญ่ต้องหมดบทบาทไป

คำถามที่ตามมาก็คือ สถานการณ์ของรัฐบาลเป็นอย่างไรภาย หลังจากมีคำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจาก”รัฐมนตรี”

เป็นคำถามโดยตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

ในเบื้องต้นเมื่อมีการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี และมีการยกเอาวลีที่ว่า “ผมเป็นเส้นเลือดใหญ่ของรัฐบาล”มาเท้าความ

อาจได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากทำเนียบรัฐบาลและจากบรรดา”กองเชียร์”ที่แวดล้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่คำถามก็คือ นับจากผลแห่งการปลดปรากฏขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนเป็นต้นมา สถานการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างไรในทางการเมือง

ที่ตามมาก็คือ ข่าวลือซึ่งถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นระบบว่าจากคำสั่งปลดออกจากตำแหน่ง”รัฐมนตรี”จะขยายออกไป

นั่นก็คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะต้องออกไปจากพรรค

 

ความเป็นจริงที่เห็นและเป็นอยู่ก็คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังคงดำรงอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมารับรองในฐานะหัวหน้าพรรค

เท่ากับความต้องการจาก”ทำเนียบรัฐบาล”ไม่เป็นผล

เท่ากับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังมีบทบาทภายในพรรคพลัง ประชารัฐอย่างเต็มเปี่ยม

นี่คือการถอยในทางยุทธศาสตร์ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า