เผยแพร่ |
---|
การออกมา”ขออภัย ประชาชน”ของเลขาธิการคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ นพ.มนัส เปรมปรี ในความล่าช้าต่อการตัดสินใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโคแว๊ค กำลังส่งผลสะเทือนในทางความคิดและในทาง การเมือง
เหมือนกับเลขาธิการคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติจะกระทำใน นามของ”ส่วนตัว” ทั้งๆที่ในความเป็นจริงเป็นเรื่องของ”ส่วนรวม”
เป็นเรื่องในระดับเงาะท้อน”นโยบายวัคซีน”ของชาติ
อย่าลืมเป็นอันขาดว่ากรณีจะเป็นหรือไม่เป็นส่วนหนึ่งของโคแว๊คได้รับการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา อย่าลืมเป็นอันขาดว่าบุคคลที่ ออกมาให้เหตุผลในการไม่เข้าร่วมมิได้มีแต่ระดับเลขาธิการ
ตรงกันข้าม เรื่องนี้ได้เคยนำเข้าสู่การพิจารณาในระดับศูนย์อำ นวยการบริหารโควิดระดับชาติซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการมาแล้ว
การตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ก็มิได้มีแต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หากแต่ยังเป็นเนื้อหาหนึ่งในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป
โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาให้คำตอบกลางสภา
ความรับผิดชอบในเรื่องจะเป็นหรือไม่เป็นส่วนหนึ่งของ”โคแว๊ค”จึงมิได้เป็นเรื่องระดับ”เจ้าหน้าที่”ของกรมใดกรมหนึ่งภายในกระทรวง สาธารณสุข ตรงกันข้าม เป็นเรื่องระดับชาติเป็นเรื่องระดับรัฐบาล
เป็นเรื่องที่จะต้องผ่านการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และระดับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่รวบอำนาจในการบริหารจัดการมาอยู่ในมือผ่านผู้อำนวยการศบค.ก็ตาม
ยิ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยิ่งไม่อาจปัดปฏิเสธ
การออกมา”ขออภัย”จึงมิได้เป็นเพียงเรื่องของ”เลขาธิการ”
ยิ่งกว่านั้น ความจำเป็นอันเร่งด่วนอย่างที่สุดก็คือเปิดการตรวจสอบว่าความผิดพลาดในการตัดสินใจครั้งนี้มีสมุหฐานมาอย่างไรและทำไมต้องใช้เวลานานถึง 9 เดือนจ
หรือต่อเมื่อเห็นประชาชนต้องเจ็บอย่างสาหัส ล้มตายเหมือนกับใบไม้ร่วง คนเหล่านี้จึงได้ตระหนักในความผิดพลาด