เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา กำลังอยู่ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่ออันแหลมคมอย่างยิ่งในทาง การเมือง
เมื่อทอดตามองไปยังสถานะและเกียรติภูมิของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่ย่อมมิได้เป็นสถานะและเกียรติภูมิเดียวกันกับในห้วงหลังรัฐ ประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 อันดำรงอยู่ภายใต้เสียงกระหึ่มของบทเพลงที่เปิดกระหน่ำ
เราจะทำตาม “สัญญา” ขอ “เวลา” อีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา เราจะทำอย่าง”มั่นคง”
นี่ย่อมมิได้เป็นสถานะและเกียรติภูมิเดียวกันกับสถานการณ์หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 แม้ว่าจะมีรัฐธรรมนูญ 2560 แม้จะมี 250 ส.ว.ก็ตาม
ระยะ 1 ปีกว่าจากเดือนมีนาคม 2563 กระทั่งเดือนกรกฎาคม 2563 พิสูจน์อย่างเด่นชัดของสถานะและเกียรติภูมิ
ไม่เหมือนเดิมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เด่นชัด
มีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างสูงที่ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรค ประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา จักต้องใช้ความจัดเจนในการเลือกและตัดสินใจ
ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ หลังการตัดสินใจแล้วจะเลือกจังหวะอย่างไรในการแสดงออก
เพื่อมิให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้สึกว่าถูกทรยศหักหลังใน ทางการเมือง ขณะเดียวกัน เพื่อที่จะยังรักษาแต้มต่อในทางการเมืองของตนให้สดสวยงามตาเหมือนเดิม
ความจัดเจนทางการเมืองไม่ว่าจะมองผ่านพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคชาติไทยพัฒนาล้วนมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์
เพียงแต่ว่าจะ”เลือก”และ”ตัดสินใจ”อย่างไรเท่านั้น
คำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่าจะเปิดประเทศภายในเวลา 120 วันนับจากวันที่ 16 มิถุนายน จึงอาจจะไม่ต้องรอถึงวันที่ 16 ตุลาคมก็เป็นได้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดกดดัน บีบรัดรวดเร็ว
ทั้งยังเป็นการกดดันซึ่งไม่แน่ว่าพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิ ปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีส่วนร่วมมากน้อยเพียงใด
นี่คือห้วงเวลาอันทรงความหมายยิ่งในทางการเมือง