เผยแพร่ |
---|
ในที่สุด พรรคเพื่อไทยก็เปิดตัว นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ในฐานะเป็น“มันสมอง”ก้อนโต้ในทางเศรษฐกิจ
อาจเป็นการเปิดผ่านช่องทางที่เรียกว่า”พ็อดคาสท์”
กระนั้น หากพิจารณาจากองค์ประกอบและกระบวนการล๊อนซ์ ในทางการเมืองก็ต้องยอมรับว่าอลังการงานสร้าง
เห็นได้จากคนสัมภาษณ์เป็น”คนรุ่นใหม่”สดใส กาววาว
เห็นได้จากคนที่ร่วมในการถามเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
ตรงนี้ต่างหากที่ไม่เพียงแต่จะเป็นมิติและสถานการณ์ใหม่ของการเปิดตัว”คนรุ่นใหม่”ในนามพรรคเพื่อไทย หากแต่ยังสะท้อนให้เห็นสายสัมพันธ์อันยาวนานอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะเพื่อโฟกัสไปยัง 1 นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ และ 1 นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เท่ากับโยงจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประ ชาชนเข้ามายังพรรคเพื่อไทย
นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อาจสะท้อนภาพ”ไทยรักไทย”เด่นชัด
ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี สะท้อนทั้งภาพ”ไทยรักไทย”และภาพ”กลุ่มแคร์ คิดเคลื่อนไทย”อย่างชวนให้ติดตามเป็นพิเศษ
มีความจำเป็นต้องให้ความสนใจไปยัง นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อย่างเป็นพิเศษ หากเริ่มจากแนวคิดแปร”สนามรบ”อินโดจีน มาเป็น
“สนามการค้า”ในยุครัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็อาจนาน
เพราะเป็นสภาพการณ์ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 โดย”รสช.”
ขณะที่ภาพซึ่งใหม่กว่าคือ “รถไฟความเร็วสูง”
หลายคนอาจจำภาพ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างจำหลัก หนักแน่น
ขอให้รู้เถิดว่าเจ้าของ”ไอเดีย”อันเป็นต้นเค้าอย่างแท้จริงคือ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์
เขานี่แหละที่เสนอ ลงมือวิจัยและตระเตรียมพิมพ์เขียว
เรื่องลึกๆแบบนี้แม้กระทั่ง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ต้องยอมรับและไม่อาจคัดง้างหรือโต้แย้งได้
การเปิดตัว นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ พร้อมกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี จึงไม่เพียงแต่สะท้อนความแนบแน่นระหว่างพรรคไทยรักไทยกับพรรคเพื่อไทย
หากแต่ยังเป็นจังหวะก้าวแห่งการปฏิรูปพรรคเพื่อไทย สร้างภาพของคนรุ่นอาวุโสอันเปี่ยมด้วยเยาวภาพแห่งความคิดใหม่
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ คือฤกษ์งามยามแจ่มอย่างยิ่ง