ไม่ว่าการเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนตัว”หัวหน้า”ภายในพรรคพลังประ ชารัฐ ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่เริ่มต้นใน โลกออนไลน์ผ่าน #MobFromHome

​คือ การส่งสัญญาณอันเหมือนกับเสียงระฆัง “เตือน”ในทาง การเมืองอันแหลมคมยิ่ง

​เตือนโดยตรงไปยังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

​เตือนให้ตระหนักและรับรู้ว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส รัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะประสบกับสภาพการณ์ใดในทางการเมือง

​หากการบริหารจัดการภายใน”พรรคพลังประชารัฐ”ไม่เรียบ ร้อยอย่างราบรื่น

​ปฏิกิริยาจาก#MobFromHomeก็จะยกระดับ

 

เหมือนกับปฏิกิริยาของบรรดาไอ้ห้อยไอ้โหนใน 250 ส.ว.จะแสดงอาการร้อนตัวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากคำถาม #ส.ว.มีไว้ทำ ไมโดยตรง

​แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า # ส.ว.มีไว้ทำไม เกิดจากสมุหฐานใดในทางการเมือง

​นี่คือการฟาดกระหน่ำโดยตรงไปยัง “รัฐธรรมนูญ” นี่คือการฟาดกระหน่ำโดยตรงไปยังกฎกติกาอันเป็นผลพวงของ “รัฐประ หาร”

​นี่คือการฟาดกระหน่ำโดยตรงไปยังแผนสืบทอดอำนาจของ คสช.โดยพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้ลงมือปฏิบัติอย่างเป็นจริงมาตั้งแต่ต้น

​ความขัดแย้งและแย่งชิงตำแหน่งภายในพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็น”เนื้อดิน”อย่างดีให้กับการเคลื่อนไหวในทางการเมือง

​เท่ากับประสาน”ภายนอก”เข้ากับ”ภายใน”โดยตรง

 

ถามว่าปัญหาความไม่พอใจที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐสามารถบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นเป็นที่พอใจโดยถ้วนหน้าหรือไม่

​ตอบได้เลยว่า ยากในระดับ”ยากส์”เป็นอย่างยิ่ง

​เพราะทางออกของปัญหานี้มีหนทางเดียวเท่านั้น คือ การ ปรับครม.

​และเมื่อใดที่ทางออกคือการปรับครม. นั่นเท่ากับเป็นการเติมเชื้อให้กับความไม่พอใจจาก 1 พรรคร่วมรัฐบาล และ 1 ปฏิกิ ริยาในทางสังคม

​นั่นก็คือ ทุกปัจจัยล้วนมีส่วนก่อให้เกิดพัฒนาการของ #MobFromHome ทั้งสิ้น