| เผยแพร่ |
|---|
เหมือนกับเมื่อประสบเข้ากับการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-๑๙ ข่าว สาร “หลัก” อาจอยู่ในมือของ “รัฐบาล”
นั่นก็คือ ข้อเท็จจริง”มากที่สุด”ยังเป็นของรัฐบาล
กระนั้น “ข้อมูล”ในลักษณะอันเป็น “สินทรัพย์”นี้ก็มิได้ชี้ชัดว่าจะดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็น “ด้านบวก”เท่านั้น
ตรงกันข้าม สามารถกลายเป็น”ลบ”ได้หากบริหารไม่เป็น
บทเรียนที่เห็นอย่างเด่นชัดที่สุดก็คือ สถานะในทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับแต่เผชิญประสบเข้ากับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ เป็นต้นมา
จากเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ เรื่อยมากระทั่งย่างเข้าปลายเดือน มีนาคมเป็นอย่างไร
เป็น “บวก” หรือว่าเป็น “ลบ
หากวัดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จาก “ขาเก่า” หน้าเดิมอย่างที่อยู่ใน พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรค เพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย
อาจยังดำรงสถานะ “ลบ” เมื่อมองไปยังภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่แปรเปลี่ยน
แต่ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ๑ คือ เสียงจากนักเรียน นิสิต นักศึกษา
เป็นเสียงจากโรงเรียน เป็นเสียงจากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยกึกก้องด้วยคำว่า “ออกไป ออกไป”
และทีเพิ่มเข้ามาใหม่ ๑ คือ เสียงจากคนที่เคย”เชียร์”
ไม่ว่าจะเคยอยู่ในขบวนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเคยอยู่ในขบวนมวลมหาประชาชน กปปส. เริ่มแสดงความเบื่อหน่ายต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่ย่อมเป็น “ลบ” มิได้เป็น “บวก”
บทสรุปตรงกันก็คือ อาการเป๋ไปเป๋มา ไม่คงเส้นคงวาของรัฐบาลอันสำ แดงผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การยึดกุม”ข้อมูล”ของรัฐบาลจึงมิได้เป็น “บวก”เสมอไป
หากว่ารัฐบาลมีอาการในแบบมีการ”กั๊ก” ข้อมูลแถลงไม่หมด ไม่ตรงไปตรงมา
โลกยุคใหม่ข้อมูลจะค่อยๆคลี่ออกมาเป็นลำดับ
การยึดกุม “ข้อมูล” มีความสำคัญ แต่การ”บริหาร”และจัดการกับข้อมูลก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
ด้าน”ลบ”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเกิดขึ้น
