E-DUANG : ​ชาวบ้าน สมัชชาคนจน ทวงถาม ​สิ่งที่ นายกรัฐมนตรี ไม่มีคำตอบ

พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบเข้ากับขบวนของชาวบ้านใน “กลุ่มสมัชชาคนจน” ที่ศรีสะเกษ กำหนดการณ์เดิมที่วางเอาไว้จากกรุงเทพมหานครก็ต้องแปรเปลี่ยน

คณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตกอยู่ในสภาพอันต้องติด # อยู่ไม่เป็น(สุข)ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

ไม่ว่าการมอบหมายให้รัฐมนตรีไปพบกับชาวบ้านที่ชุมนุมอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าการรับข้อเสนออย่างเป็นระบบของ”สมัชชาคนจน” ก็แทบไม่มีความหมายอะไรเลย

การออกมาของชาวบ้านที่ศรีสะเกษคือรูปธรรมยืนยันความล้มเหลวในการแก้ปัญหาอย่างสิ้นเชิง ยิ่งต้องเปลี่ยนที่จอดเฮลิคอปเตอร์ ยิ่งเป็นเครื่องฟ้อง

ฟ้องให้เห็นภาพการหนีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

ต้องยอมรับว่าการก่อรูปขึ้นของ “สมัชชาคนจน” มากด้วยประสบการณ์ในทางการเมือง มากด้วยประสบการณ์ในการเคลื่อนไหวต่อรอง

เพราะ”สมัชชาคนจน” เรียนรู้จาก “ความพ่ายแพ้” เรียนรู้จากความล้มเหลว

ไม่ว่ารัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ว่ารัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ไม่ว่ารัฐบาล นายชวน หลีกภัย ไม่ว่ารัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ล้วนได้รับการมาเยือนของ”สมัชชาคนจน”

การส่ง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ลงไป การส่ง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ลงไป ก็แทบไม่มีประโยชน์เพราะท่านเหล่านี้ตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องนำไปรายงานต่อครม.รายงานต่อนายกรัฐมนตรี

ผลก็คือไม่เคยมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในครม. การไปศรีสะเกษของนายกรัฐมนตรีจึงว่างเปล่า

 

ถามว่าทำไม ชาวบ้านในกลุ่ม”สมัชชาคนจน” จึงต้องการพบกับนายก รัฐมนตรี ถามว่าทำไมนายกรัฐมนตรีจึงต้องเปลี่ยนที่จอดเฮลิคอปเตอร์

คำตอบจากชาวบ้านก็คือ ต้องการทวงถามข้อเสนอ

คำตอบจากนายกรัฐมนตรีก็คือ นายกรัฐมนตรีต้องการพบแต่ชาวบ้านที่ทางจังหวัดตระเตรียม แต่งเนื้อแต่งตัว ประแป้งสะอาดเอี่ยมเอาไว้แล้ว

คำตอบจากนายกรัฐมนตรีก็คือ นายกรัฐมนตรีไม่ต้องการพบชาวบ้านใน”กลุ่มสมัชชาคนจน”

ขนาดเดินทางไปถึงทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรียังไม่ยอมพบ