เผยแพร่ |
---|
ไม่เพียงแต่การประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากกกต.ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม จะทรงความหมาย การชิงตำ แหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ทรงความหมาย
ไม่เพียงแต่ทรงความหมายต่อพรรคพลังประชารัฐ
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากคือ ทรงความหมายต่อท่าทีและการตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติ พัฒนา
ทันทีที่การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สำเร็จเสร็จสิ้น ทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติว่าจะเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ
พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ก็จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
บทสรุปเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีความสำคัญอัน เท่ากับเป็นการชี้อนาคตของคสช. อนาคตของพรรคพลังประชารัฐ หากแต่ยังสร้างความชอบธรรมให้ด้วย
ทำให้คนที่จะได้รับเลือกมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ทวีความสำคัญ
สำคัญ 1 เพราะเท่ากับชี้ต้นตาย ชีปลายเป็น
คสช.จะสามารถสืบทอดอำนาจต่อไปได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้หรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์
พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ก็สำคัญ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว 3 พรรคนี้สำคัญน้อยกว่า
ขณะเดียวกัน ก็หมายความว่าตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากมองเชิงเปรียบเทียบก็สำคัญยิ่งกว่าพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาด้วย
เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคอันดับ 4
กระนั้น ผลการเลือกตั้งที่ปรากฏจากวันที่ 24 มีนาคม ก็มิได้ชี้ให้เห็นถึงการตัดสินใจของประชาชน หากแต่ชี้ถึงแนวโน้มการเมืองในวันข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะการแจ้งเกิดของพรรคอนาคตใหม่
การตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เพียงแต่ชี้ถึงความคิดในวันนี้เท่านั้น หากแต่จะสะเทือนไปถึงวันพรุ่งนี้ด้วย
เป็นวันพรุ่งนี้ เป็นอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์