การปรากฏขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี นาคม แม้ยังไม่ส่งแรงสะเทือนอย่างรุนแรงเท่ากับการปรากฏขึ้นของพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2544

แต่ก็มี “ความหมาย” อย่างลึกซึ้งในทางการเมือง

ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ได้จุดประกายแห่งความหวังให้กับ “คนหน้าใหม่” บนพื้นฐานแห่งการสร้าง”การเมืองใหม่”อย่าง แท้จริง

พรรคอนาคตใหม่ได้สร้างจุดเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญไม่เพียงแต่ต่อพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา

หากแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยอันเป็น”อวตาร”แห่งพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย ก็ไม่เว้น

 

ปรากฎการณ์”อนาคตใหม่”เกิดขึ้นภายใต้ความพยายามในการสืบ ทอดอำนาจของ “คสช.” ผ่านรัฐธรรมนูญ ผ่านการเลือกตั้ง ผ่านพรรคพลังประชารัฐ

บทสรุปที่ว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”มีความแจ่มชัดในตัวเอง

จุดนี้เองที่พรรคอนาคตใหม่เสนอทางเลือก”ใหม่”

การที่ประชาชนเลือกพรรคอนาคตใหม่มาเป็นอันดับ 3 จึงเป็นการหยั่งเชิงอันแหลมคมยิ่ง

เพราะในความเป็นจริง พรรคพลังประชารัฐอันเป็นเครื่องมือของคสช.ก็ไม่สามารถเอาชนะคะแนนและความนิยมของพรรคเพื่อไทยได้

ขณะเดียวกัน แม้พรรคอนาคตใหม่จะยังเป็นรองพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็มีความเหนือกว่า พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา

และคะแนนรวม คะแนนผ่าน ส.ส.ระบบเขตของพรรคอนาคตใหม่ก็ไปหนุนเสริมให้กับพรรคเพื่อไทยได้อย่างเหมาะสม

 

แม้ความโน้มเอียงภายในพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคชาติไทยพัฒนา จะเอนไปทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาผ่านพรรคพลังประชารัฐ

แต่ก็ก่อสภาวะละล้าละลังในทางการเมือง

ไม่เพียงเพราะมีพรรคเพื่อไทยขวางทางอยู่ หากแต่ยังมีพรรค อนาคตใหม่คอยตอกย้ำ จำหลัก หนักแน่น

ไม่สามารถอ้าขา ผวาปีกได้อย่างที่อยากจะทำ