เผยแพร่ |
---|
บรรยากาศ “การเลือกตั้ง” ที่จะมาถึงในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เริ่ม มีการนำไปเปรียบเทียบกับบรรยากาศ “ประชามติ”เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 แม้เวลาจะผ่านมาแล้ว 3 ปี
มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่ชัยชนะจาก”ประชามติ”จะต่อเนื่องและกลายเป็นชัยชนะของ “การเลือกตั้ง”
เมื่อ “สภากลาโหม” มีมติให้กองทัพวางตัวเป็นกลาง
นั่นหมายความว่า จะไม่มีการสนธิกำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในนาม”กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย”(กกล.รส.) ออกไปในชุมชน
แต่ก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความได้เปรียบในทางการเมือง
นั่นก็ต้องติดตาม “รัฐบาล” กับ “พลังประชารัฐ”
ความคึกคักก่อนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ประชาชนสามารถสัมผัสได้จาก 2 ส่วนสำคัญ
เห็นได้จากความเร่าร้อนของ “รัฐบาล”
การเร่งผลิตนโยบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทุ่มงบประมาณ จำนวนมหาศาลลงไป
การโหมประโคมในเรื่อง “บัตรสวัสดิการคนจน”
ขณะเดียวกัน บทบาทของพรรคพลังประชาชนในการเชื่อม ประสานเข้ากับนโยบายของรัฐบาล ถึงระดับอาจมีการหยิบยืมมาเป็นประโยชน์
ลำพังการใช้ชื่อเป็น”พรรคพลังประชารัฐ”ก็สะท้อนความสนิท แนบแน่นอย่างยิ่งอยู่แล้ว
การทอดเวลาลาออกของ 4 รัฐมนตรียิ่งแหลมคม
เพราะว่าการอนุมัติแต่ละโครงการในที่ประชุมครม.ล้วนแต่มี 4 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทั้งสิ้น
นี่คือ จุดที่”อำนาจรัฐ”เข้ามามีส่วนในการเก็บคะแนนนิยม
หากบรรยากาศ“ประชามติ” คือ การใช้อำนาจแข็งผ่าน”กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย”(กกล.รส.)
บรรยากาศ”การเลือกตั้ง”คือ การใช้ “อำนาจอ่อน”
เป็นอำนาจอ่อนของการประสานการอนุมัติเงิน”งบประมาณ” ของรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคพลังประชารัฐได้ต่อยอดเก็บเกี่ยวคะแนน
สร้างความคึกคัก มั่นใจให้กับ”พลังประชารัฐ”