E-DUANG : ประนอม ภายใน ประชาธิปัตย์ ผลสอบสวน ต่อ ถาวร เสนเนียม

และแล้วความขึงขัง แข็งกร้าว ต่อท่าทีของ นายถาวร เสนเนียม กับ นายวิทยา แก้วภราดัย ตลอดจน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม กับสายสัมพันธ์เดิมต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ของพรรคประชาธิปัตย์

ก็ค่อยๆสงบและจบลงอย่างราบรื่น

ตรงนี้ไม่เพียงสะท้อนถึง “เยื่อใย” ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยมีต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เท่านั้น

หากแต่ยังสะท้อนความพยายามอย่างยิ่งยวดภายในพรรค ประชาธิปัตย์ที่จะประสานรอยร้าวที่ร้ายลึกอันเกิดขึ้นในห้วงแห่งการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค

เพราะ 5 หมื่นกว่าเสียงของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นั้นยังมากด้วยพลานุภาพ

 

พลันที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประกาศขึ้นชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทุกสายตาก็มองด้วยความงุน งงสงกาอย่างยิ่ง

เพราะเป็นมวยคนละรุ่น กระดูกคนละเบอร์ในทางการเมือง

อย่าว่าแต่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เลย แม้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ นักการเมืองอย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ก็ห่างชั้นเป็นอย่างยิ่ง

กระนั้น เมื่อมีเสียงจาก นายถาวร เสนเนียม ผลักรุนอย่างเต็มกำลัง

ประสานกับข่าวที่ว่ามีการเปิด “วอร์รูม”

การเคลื่อนไหวอย่างคึกคักของบรรดาแกนนำ”กปปส.”ที่เคยร่วมเรียงเคียงกับเงาร่าง นายถาวร เสนเนียม และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงค่อยปรากฏ

นี่ย่อมเป็นสงครามอย่างที่ศัพท์ทางการทหารเรียกว่า Proxy War อย่างเด่นชัด

เท่ากับมือของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ยื่นเข้ามา

 

คะแนนกว่า 5 หมื่นที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้มาในระหว่างหยั่ง เสียงต่างหาก คือ พลานุภาพอันแท้จริงทำให้พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องระมัดระวัง

ไม่ว่ากรณี นายถาวร เสนเนียม ไม่ว่ากรณี นายวิทยา แก้วภราดัย ตลอดจนกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม

คะแนนตรงนี้มิอาจผลีผลามได้อย่างเด็ดขาด

เพราะคะแนนนี้จะมีผลอีกครั้งภายหลัง”การเลือกตั้ง”